Page 62 - วารสารวิชาการสิทธิมนุษยชน. ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม - ธันวาคม 2561)
P. 62
ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม - ธันวาคม 2561) 61
ทั้งในส่วนฐานความผิดอาญา เช่น มาตรา 14 มาตรา 16 และในส่วนกลไกการปิดกั้นหรือระงับเนื้อหาตามมาตรา 20
มีแนวโน้มไม่สอดคล้องกับเกณฑ์หลายประการ หากเปรียบเทียบกับแนววินิจฉัยของศาลต่างประเทศ กฎหมาย
ลักษณะนี้หลายฉบับถูกศาลพิพากษาว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ ในกรอบกฎหมายไทยจึงมีประเด็นโต้แย้งว่า
บทบัญญัติของกฎหมายเหล่านี้ไม่สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน และไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 34 ประกอบ
มาตรา 26 เนื่องจากแม้ว่าเป็นกฎหมายที่ตราขึ้น เพื่อปกป้องประโยชน์ที่ระบุไว้ เช่น ความมั่นคง ฯลฯ แต่ก็เป็น
การจำากัดเสรีภาพเกินจำาเป็น โดยไม่สอดคล้องกับเกณฑ์สิทธิมนุษยชนที่วิเคราะห์ไว้ข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจ
ของศาลรัฐธรรมนูญในการวินิจฉัยต่อไป โดยผู้เขียนมีข้อเสนอแนะในหลายระดับ ดังนี้
ข้อเสนอแนะในระดับการแก้ไขตัวบทกฎหมาย เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน เช่น
• จำากัดขอบเขตเนื้อหาผิดกฎหมายให้แคบ โดยพิจารณาความซำ้าซ้อนกับกฎหมายอื่นที่มีอยู่แล้ว
ตามหลักความจำาเป็นและได้สัดส่วน เช่น เนื้อหาข้อมูลสื่อลามกเด็กมีฐานความผิดเฉพาะตามกฎหมายอาญาแล้ว
เนื้อหาเกี่ยวกับความมั่นคงอยู่ภายใต้ฐานความผิดตามกฎหมายอาญา เนื้อหาหมิ่นประมาทผู้อื่น
ด้วยภาพตัดต่อ ฯลฯ ก็อยู่ภายใต้กฎหมายอาญาหมิ่นประมาท เป็นต้น จึงควรยกเลิกการกำาหนดความผิดสำาหรับ
เนื้อหาเหล่านี้ซำ้าซ้อนในกรอบของกฎหมายความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ดังที่มีการแยกความผิดฐานหมิ่นประมาท
ออกไปจากมาตรา 14 (1) เนื่องจากอยู่ภายใต้กฎหมายอาญาแล้ว
• แก้ไของค์ประกอบความผิดในส่วนพฤติการณ์ประกอบการกระทำาตามมาตรา 14 (1) (2)
ที่มีขอบเขตกว้าง
• กำาหนดมาตรการควบคุมเนื้อหาในกฎหมายฉบับเดียวกันเท่าที่จำาเป็นและจำากัดเสรีภาพน้อยที่สุด
เช่น กำาหนดเฉพาะมาตรการปิดกั้นหรือระงับเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย โดยไม่กำาหนดโทษอาญาสำาหรับผู้เผยแพร่
ส่งต่อเนื้อหาดังกล่าว นอกจากนี้ ยังอาจพิจารณาทางเลือกอื่น นอกจากการกำาหนดบังคับตามกฎหมาย
เช่น การควบคุมกันเองด้วยความสมัครใจของภาคเอกชน
ข้อเสนอแนะในระดับก�รดำ�เนินก�รต�มกฎหม�ยขององค์กรอิสระที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ตรวจการ
แผ่นดินและคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มีหน้าที่และอำานาจในการดำาเนินการเกี่ยวกับพระราชบัญญัติ
ว่าด้วยการกระทำาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ สองแนวทาง คือ แนวท�งที่หนึ่ง ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอแนะ
ให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงดิจิทัลฯ ปรับปรุงกฎหมายดังกล่าวให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน
(รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 230 (1) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2560 มาตรา 22 (1) และเนื่องจากเป็นกรณีที่เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งเรื่องให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติดำาเนินการต่อไป พระราชบัญญัติประกอบ
รัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2560 มาตรา 22 วรรคท้าย) แนวท�งที่สอง ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอ
เรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่า บทบัญญัติที่กระทบเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามพระราชบัญญัตินี้