Page 45 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2565
P. 45

รายงานผลการประเมินสถานการณ์   43
                                                                           ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี  2565


                 ซึ่งสอดคล้องตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการประจ�า      ข้อเสนอแนะจากกระบวนการน�าเสนอรายงาน UPR

                 กติกา ICCPR ที่เสนอแนะให้ปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย      รอบที่ 3 ซึ่งประเทศไทยได้ตอบรับ 123
                 เพื่อไม่ให้ใช้โทษประหารชีวิตกับความผิดที่เกี่ยวกับ

                 ยาเสพติด เนื่องจากไม่เข้าข่ายเป็นคดีอุกฉกรรจ์ตามกติกา    ข้อเสนอแนะในกำรส่งเสริมและคุ้มครอง
                 ICCPR อย่างไรก็ตาม รัฐยังไม่มีความคืบหน้าในการ    สิทธิมนุษยชน
                 ด�าเนินการตามมติ  ครม.  เมื่อวันที่  26  กรกฎาคม          กสม.  เห็นควรมีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลว่า

                 2559 เพื่อมุ่งเปลี่ยนแปลงโทษประหารชีวิต ซึ่งยังต้อง   ควรสนับสนุน ยธ. ให้สามารถด�าเนินการขับเคลื่อน
                 ด�าเนินการในระยะที่ 2 ต่อไป โดยทบทวนโทษประหารชีวิต   การเปลี่ยนแปลงโทษประหารชีวิตตามมติ ครม. เมื่อวันที่

                 ในฐานความผิดที่ไม่สอดคล้องกับกติกา  ICCPR         26 กรกฎาคม 2559 ทั้ง 3 ระยะ เพื่อน�าไปสู่การยกเลิก
                 ที่ควรก�าหนดไว้เฉพาะคดีอาญาที่อุกฉกรรจ์ที่สุด หากยัง   โทษประหารชีวิตในประเทศไทย
                 ไม่มีการยกเลิกโทษประหารชีวิตทั้งหมด  และเป็น



                                    กำรกระท�ำทรมำนและกำรบังคับบุคคลให้สูญหำย



                 สถำนกำรณ์ ปัญหำหรืออุปสรรค                        การควบคุมตัว เป็นต้น จ�านวนเรื่องร้องเรียนที่ได้รับลดลง
                                                                   เล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 ที่มี
                        ในปี 2565 มีสถานการณ์การกระท�าทรมานและ     จ�านวน 13 ค�าร้อง โดยในปี 2565 กสม. ได้มีรายงานผล

                 การบังคับบุคคลให้สูญหายของประเทศไทยที่ส�าคัญ ดังนี้
                                                                   การตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนอันเกี่ยวข้องกับ
                 1.  กำรกระท�ำทรมำน                                กรณีการกระท�าทรมานที่ส�าคัญ ได้แก่


                        มีสถานการณ์ที่ส�าคัญ ได้แก่                        1) กรณีการกล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่ต�ารวจชุด

                     1.1 รำยงำนเหตุกำรณ์และเรื่องร้องเรียน         จับกุม ศูนย์อ�านวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
                                                                   ข่มขู่และเรียกรับทรัพย์สิน ซึ่ง กสม. เห็นว่าการปฏิบัติ
                 ต่อ กสม.                                          ของเจ้าหน้าที่ต�ารวจในการน�าตัวผู้ต้องหาไปกักขังหรือ

                        อาทิ กรณีครูหน่วยงานทางทหารแห่งหนึ่งใช้    ควบคุมตัวในเซฟเฮาส์ มีความสุ่มเสี่ยงต่อการละเมิด
                 ด้ามมีดตีที่ศีรษะพลทหารและท�าร้ายร่างกายจนมีอาการ  สิทธิมนุษยชน ซึ่งเคยมีข้อห่วงกังวลในรายงานผลการประเมิน
                 ปวดศีรษะอย่างรุนแรง รวมถึงได้มีการสั่งท�าโทษด้วยการ   สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2564

                 ให้ปักศีรษะลงพื้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง   เกี่ยวกับ พ.ร.บ. วิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ 2)
                 โดยคณะกรรมการซึ่งหน่วยงานต้นสังกัดแต่งตั้งขึ้น 124    พ.ศ. 2564 ที่ยังคงมีบทบัญญัติให้อ�านาจแก่เจ้าหน้าที่
                 และกรณีเจ้าหน้าที่ต�ารวจกระท�าความรุนแรง ข่มขู่ ซ้อม  ในการควบคุมตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดได้เป็นเวลา 3 วัน
                 ทรมานเพื่อให้สารภาพ 125                           ก่อนน�าตัวส่งพนักงานสอบสวน แม้ว่าต่อมา ป.ป.ส.

                        ส�าหรับสถิติเรื่องร้องเรียนของ กสม. ในปี 2565   ได้ออกระเบียบในการก�ากับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของ
                 มีเรื่องร้องเรียนกรณีการกล่าวอ้างว่ามีการกระท�าทรมาน   เจ้าพนักงาน  ก�าหนดเกี่ยวกับสถานที่ในการควบคุมตัว
                                                                             126
                 จ�านวน 10 ค�าร้อง เช่น กรณีกล่าวอ้างว่าถูกท�าร้ายร่างกาย  โดยต้องเป็นสถานที่ท�าการของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.

                 ระหว่างฝึกทหาร กรณีกล่าวอ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ต�ารวจ  หรือที่ท�าการของเจ้าพนักงานต�ารวจเพื่อฝากควบคุมตัว
                 หน่วยปราบปรามยาเสพติดท�าร้ายร่างกายขณะจับกุมตัว   ชั่วคราวก่อนส่งมอบพนักงานสอบสวน และสถานที่นั้น
                 และซ้อมทรมานเพื่อบังคับให้รับสารภาพ และกรณี       จะต้องมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อบันทึกภาพ

                 กล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่ต�ารวจท�าร้ายร่างกายในระหว่าง   และเสียงระหว่างการควบคุมตัว 127









        001-234 V9 CS6.indd   43                                                                                   3/14/23   8:40 PM
   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50