Page 44 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2565
P. 44
42
กำรประเมินสถำนกำรณ์สิทธิมนุษยชน 3) รัฐบาลควรมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ให้พิจารณาก�าหนดมาตรการและด�าเนินการตาม
ในปี 2565 ยธ. ได้ด�าเนินการพัฒนาระบบฐาน
ข้อมูลศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลกระบวนการยุติธรรม (DXC) ความเหมาะสม เพื่อให้การบังคับใช้ พ.ร.บ. ก�าหนดระยะเวลา
เพื่อช่วยให้การด�าเนินคดีมีความสะดวกและรวดเร็วตาม ด�าเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. 2565 มีผล
ที่ กสม. ได้เน้นย�้าในรายงานผลการประเมินสถานการณ์ฯ ในทางปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพและอ�านวยความยุติธรรม
ปี 2564 และ ตร. มีการก�าชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้แก่ประชาชน
ภายใต้ ตร. ได้ปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของ กสม. แล้ว 4. โทษประหำรชีวิต
แต่จากเรื่องร้องเรียนที่ กสม. ได้รับในปี 2565 มีจ�านวน
เพิ่มขึ้นจากปีก่อน อาจสะท้อนให้เห็นว่าการน�าแนวปฏิบัติ สถำนกำรณ์ ปัญหำหรืออุปสรรค
ดังกล่าวไปใช้ในสถานีต�ารวจแต่ละแห่งยังไม่ประสบ ปัจจุบันกฎหมายของประเทศไทยได้ก�าหนดฐาน
ผลส�าเร็จเท่าที่ควร ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับกติกา ICCPR ความผิดในประมวลกฎหมายอาญาและกฎหมายอื่นที่มี
ข้อ 9 (3) ที่ก�าหนดให้บุคคลมีสิทธิได้รับการพิจารณาคดี โทษประหารชีวิตเป็นโทษสูงสุด รวม 62 ฐานความผิด 121
ภายในระยะเวลาอันสมควร ซึ่งจะส่งผลต่อสิทธิด้านอื่น ๆ ซึ่งในทางปฏิบัติประเทศไทยมีการบังคับโทษประหาร
ของผู้ต้องขังตามมา ทั้งนี้ การประกาศใช้กฎหมายว่าด้วย ชีวิตครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2561 ทั้งนี้
การก�าหนดระยะเวลาด�าเนินงานในกระบวนการยุติธรรม กรมราชทัณฑ์รายงานว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
ที่ให้หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายก�าหนดระยะเวลาในการ มีนักโทษที่ถูกพิพากษาประหารชีวิตจ�านวน 192 คน
ด�าเนินงานส่วนต่าง ๆ อาจช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ แยกเป็นคดียาเสพติดให้โทษ 127 คน และคดีความผิดทั่วไป
จึงสมควรติดตามผลการด�าเนินงานของหน่วยงาน 65 คน โดยเป็นนักโทษที่ถูกพิพากษาคดีถึงที่สุด 7 คน
ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการด�าเนินคดีต่อไป
แยกเป็นคดียาเสพติด 6 คน และคดีทั่วไป 1 คน 122
ข้อเสนอแนะในกำรส่งเสริมและคุ้มครอง อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนเพื่อด�าเนินการตาม
สิทธิมนุษยชน มติ ครม. เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2559 ในการด�าเนินการ
กสม. เห็นควรมีข้อเสนอแนะ ดังนี้ เปลี่ยนแปลงโทษประหารชีวิต 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1
การปรับอัตราโทษความผิดบางประเภท จากที่มีโทษ
1) รัฐบาลโดย ตร. ควรก�าชับให้พนักงาน ประหารชีวิตเป็นโทษอัตราขั้นสูงสุดประหารชีวิต ระยะที่ 2
สอบสวนตรวจสอบฐานข้อมูลสถานะของผู้ต้องหาก่อน การยกเลิกโทษประหารชีวิตในบางฐานความผิดที่ไม่เกี่ยวกับ
ที่จะขอออกหมายจับ และเร่งรัดการด�าเนินการสอบสวน ชีวิต ระยะที่ 3 การยกเลิกโทษประหารชีวิตในฐานความผิด
ในทันทีที่สามารถกระท�าได้หากผู้ต้องหาถูกคุมขังอยู่ ที่เหลือทั้งหมด ยังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากการไม่ได้รับ
ในเรือนจ�าอยู่แล้ว การจัดสรรงบประมาณ เพื่อด�าเนินงานให้เป็นไปตามแผนการ
2) รัฐบาลโดย ตร. ควรพิจารณาแก้ไขค�าสั่ง ตร. ข้างต้น
ที่ 419/2556 เรื่อง การอ�านวยความยุติธรรมในคดีอาญา กำรประเมินสถำนกำรณ์สิทธิมนุษยชน
การท�าส�านวนสอบสวน และมาตรการควบคุม ตรวจสอบ
เร่งรัดการสอบสวนคดีอาญา โดยควรก�าหนดว่า หาก การประกาศใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด
ผู้ต้องขังนั้นถูกคุมขังอยู่ในเรือนจ�าแล้ว พนักงานสอบสวน เมื่อปลายปี 2564 ท�าให้ฐานความผิดที่มีโทษประหาร
ไม่จ�าเป็นต้องขอออกหมายจับก่อนการประสานอายัดตัว ชีวิตลดลง และผู้พิพากษาสามารถใช้ดุลยพินิจที่จะลงโทษ
โดยให้เริ่มสอบสวนผู้ต้องหาที่เรือนจ�าในโอกาสแรก โดยไม่จ�าเป็นต้องใช้โทษประหารชีวิตสถานเดียว
001-234 V9 CS6.indd 42 3/14/23 8:40 PM

