Page 42 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2565
P. 42
40
รับจ้างผลิตแหอวนไปยังเรือนจ�าและทัณฑสถานที่เคย ความเหลื่อมล�้าและสร้างความเป็นธรรมในสังคม ผ่านการ
ท�าสัญญาไว้กับบริษัทเอกชน ทั้งนี้ จากปัญหาเรือนจ�า ก�าหนดโทษอาญาให้เหมาะสมกับสภาพความผิดหรือ
110
แออัดซึ่งส่งผลต่อพื้นที่ส�าหรับการอบรมฝึกอาชีพ ก�าหนดมาตรการลงโทษให้เหมาะสมกับการกระท�าความผิด
ไม่เพียงพอ ท�าให้การปรับหรือแก้ไขพฤติกรรมของผู้ต้องขัง และฐานะของผู้กระท�าความผิดเพื่อมิให้บุคคลต้องรับโทษ
ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร นอกจากนี้ ปัญหาเรือนจ�า หนักเกินสมควร การใช้มาตรการอื่นแทนการลงโทษ
111
แออัดยังส่งผลให้ผู้ต้องขังอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ทางอาญาจึงอาจช่วยบรรเทาความแออัดในเรือนจ�าได้
ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้ต้องขังในการได้รับ ทั้งนี้ ในปี 2565 มีผู้ต้องขังลดลงเมื่อเทียบกับปี 2564
การปฏิบัติโดยค�านึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ในปี 2565 แม้ว่าปริมาณผู้ต้องขังที่ลดลงดังกล่าวยังไม่สอดคล้อง
พบว่าปัญหาสุขอนามัยภายในเรือนจ�าและสถานควบคุม กับแนวปฏิบัติทางวิชาการว่าด้วยการออกแบบเรือนจ�า
ตัวอื่นของรัฐยังไม่ได้มาตรฐาน มีการรายงานถึงอาหาร (Technical Guidance for Prison Planning) ซึ่งก�าหนด
112
ที่ไม่ได้คุณภาพภายในเรือนจ�า และปริมาณของใช้ ให้พื้นที่เรือนนอนภายในเรือนจ�าขั้นต�่ามีอัตราส่วน
116
113
อุปกรณ์ หรือยาที่ไม่เพียงพอต่อผู้ต้องขัง ซึ่งส่วนหนึ่ง 2.6 ตารางเมตรต่อผู้ต้องขัง 1 คน แต่ปริมาณผู้ต้องขัง
เกิดจากการได้รับงบประมาณที่ไม่เพียงพอ 114 ที่ลดลงถือเป็นพัฒนาการที่ดีในการลดความแออัดในเรือนจ�า
เพื่อให้ผู้ต้องขังใช้ชีวิตได้อย่างเหมาะสมและสมศักดิ์ศรี
จากข้อเสนอแนะของ กสม. ในรายงานผล ความเป็นมนุษย์ อันสอดคล้องกับกติกา ICCPR ข้อ 10
115
การประเมินสถานการณ์ฯ ปี 2564 รัฐบาลโดย ยธ. ตอบรับ
ข้อเสนอแนะที่จะแก้ไขปัญหาความแออัดในเรือนจ�า โดย อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากปริมาณผู้ต้องขัง
มีความพยายามในการลดปริมาณผู้ต้องขังอย่างต่อเนื่อง ในคดียาเสพติด 4 ปีย้อนหลัง พบว่าจ�านวนผู้ต้องขัง
และการผลักดันร่าง พ.ร.บ. ประวัติอาชญากรรม พ.ศ. .... ดังกล่าวไม่ได้ลดลงอย่างมีนัยส�าคัญภายหลังการประกาศ
เพื่อเป็นกฎหมายกลางในการให้โอกาสผู้พ้นโทษให้ ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด แม้ว่าปริมาณผู้ต้องขังจะ
สามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุขในสังคม รวมถึง ลดลงจากปี 2564 จ�านวน 17,409 คน แต่เมื่อเทียบกับ
สนับสนุนให้สามารถเข้าถึงแหล่งงานหรือสถานประกอบ ปริมาณผู้ต้องขังทั้งหมดในเรือนจ�าที่ลดลงร้อยละ 6.22
การที่ตรงกับความรู้ความสามารถของตนภายหลัง พบว่าผู้ต้องขังในคดียาเสพติดลดลงเพียงร้อยละ 2.83 เท่านั้น
การพ้นโทษต่อไป รวมถึงกระบวนการบ�าบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด
ดังกล่าวอาจต้องใช้ทรัพยากรจ�านวนมาก สะท้อนให้เห็น
กำรประเมินสถำนกำรณ์สิทธิมนุษยชน ว่าแนวทางในการเบี่ยงเบนคดียาเสพติดออกจากคดีอาญา
ในประเด็นปัญหาเรือนจ�าแออัดพบว่า ในปี 2565 และประสิทธิภาพในการบ�าบัดฟื้นฟูยังต้องติดตาม
รัฐบาลได้ด�าเนินการผ่านกระบวนการต่าง ๆ เพื่อลด ความก้าวหน้าต่อไป
ปริมาณผู้ต้องขังในเรือนจ�า และการประกาศใช้ประมวล ข้อเสนอแนะในกำรส่งเสริมและคุ้มครอง
กฎหมายยาเสพติดเน้นไปที่การใช้กระบวนการบ�าบัดรักษา สิทธิมนุษยชน
และฟื้นฟูด้วยการน�าผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการ
บ�าบัดรักษาทั้งแบบสมัครใจหรือตามค�าสั่งศาล ด้วยการ กสม. เห็นควรมีข้อเสนอแนะ ดังนี้
ใช้แนวทางสาธารณสุขมากกว่าการลงโทษทางอาญา 1) รัฐบาลโดย ยธ. ควรพิจารณาศึกษา
เป็นการแยกผู้เสพออกจากผู้ค้า จึงอาจเป็นส่วนหนึ่ง ความเป็นไปได้ในการน�ามาตรการอื่นแทนการน�าโทษจ�าคุก
ที่จะช่วยลดปัญหาผู้ต้องขังเข้าสู่เรือนจ�าจากคดียาเสพติด มาใช้ในคดีอาญาตามความเหมาะสม โดยเฉพาะในช่วง
รวมถึงการออกกฎหมายว่าด้วยการปรับเป็นพินัย เพื่อขจัด ก่อนพิจารณาคดี เพื่อลดจ�านวนผู้ถูกควบคุมตัวระหว่าง
001-234 V9 CS6.indd 40 3/14/23 8:40 PM

