Page 86 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ สิทธิชุมชนในการจัดสรรทรัพยากรน้ำโดยใช้แนวทางสันติวิธี : กรณีศึกษาพื้นที่ต้นน้ำของประเทศไทย
P. 86

69



                              ความสัมพันธ์ระหว่างทรัพยากรน  าและชุมชน ที่ตั้งชุมชนแรกเริ่มที่บรรพบุรุษชาวชุนชนแม่
                       ทาเลือกตั้งถิ่นฐานนั้นเป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้ล้าน้้า และมีสภาพเป็นพื้นที่ป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์

                       ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ท้าให้ชาวชุมชนแม่ทา ณ ขณะนั้นด้ารงชีพด้วยการพึ่งพิงป่า จากนั้นจึงได้

                       ริเริ่มจับจองพื้นที่ติดแม่น้้าเพื่อบุกเบิกพื้นที่ท้ากิน โดยเน้นการปลูกข้าวส้าหรับใช้บริโภคภายใน
                       ครัวเรือนเป็นหลัก ด้าเนินชีวิตด้วยความเรียบง่าย การจัดการภายในชุมชนขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ทาง

                       เครือญาติ และจารีตประเพณีวัฒนธรรมความเชื่อ การเคารพธรรมชาติ ซึ่งเป็นเครื่องประกันความมั่นคง

                       ในสิทธิการใช้ที่ดินของชุมชน (นพรัตน์ ดวงแก้วเรือน และคณะ, 2559)
                              ที่มาหรือสถานการณ์ปัญหาต่อการจัดการทรัพยากรน  า ภายหลังการก่อตั้งชุมชนแม่ทา

                       จากนั้น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2400–2500 คนในชุมชนต้องเผชิญกับภาวะยากแค้นเนื่องจากทรัพยากรป่าไม้

                       โดยรอบชุมชนถูกท้าลาย จากการที่ภาครัฐได้เปิดให้มีการสัมปทานไม้บริเวณป่าขุนน้้าแม่ทา (ศูนย์วน
                       ศาสตร์ชุมชนเพื่อคนกับป่า – ประเทศไทย, 2557) นอกจากทรัพยากรป่าไม้โดยรอบชุมชนแม่ทาจะ

                       ได้รับผลกระทบจากการสัมปทานป่าไม้แล้ว ยังพบว่าจากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจส่งผลให้วิถีการ

                       ด้าเนินชีวิตของชาวชุมชนแม่ทาเปลี่ยนแปลงไป จากการเพาะปลูกเพื่อยังชีพภายในครัวเรือน
                       เปลี่ยนเป็นการเพาะปลูกในเชิงการค้ามากขึ้น โดยเน้นการปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่น ยาสูบ ถั่วลิสง และ

                       ข้าวโพดฝักอ่อน ซึ่งต้องใช้พื้นที่เพาะปลูกบริเวณกว้างท้าให้ต้องขยายพื้นที่เพาะปลูกด้วยการแผ้วถางป่า

                       หรือต้องตัดไม้จากป่ามากขึ้นเพื่อเป็นเชื้อเพลิงส้าหรับโรงบ่มใบยาสูบในชุมชน กล่าวคือ ท้าลายป่าเพื่อ
                       การค้า นอกจากนั้น เกษตรกรยังหันมาใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี และเครื่องจักรขนาดใหญ่ (รถไถพรวน)

                       ส่งผลให้ทรัพยากรธรรมชาติในชุมชนแม่ทาเริ่มเสื่อมโทรมลง น้ามาสู่การแย่งชิงทรัพยากรของคนใน

                       ชุมชน ดังนั้น อาจสรุปได้ว่า เริ่มตั้งแต่รัฐเปิดสัมปทานป่าในผืนป่าแม่ทาให้แก่นายทุนเข้ามาตัดไม้และ
                       คนในชุมชนเองที่ขยายพื้นที่ท้ากินเข้าไปในพื้นที่ป่าเพื่อสะสมทุนของตนให้มากขึ้น ท้าให้ในช่วงปี พ.ศ.

                       2534–2535 ชุมชนต้าบลแม่ทาประสบปัญหาภัยแล้ง ชาวบ้านในต้าบลแม่ทาไม่สามารถท้านาได้

                       เนื่องจากแหล่งต้นน้้าถูกท้าลาย (นพรัตน์ ดวงแก้วเรือน และคณะ, 2559; ศูนย์วนศาสตร์ชุมชนเพื่อคน
                       กับป่า – ประเทศไทย, 2557)

                              แนวปฏิบัติที่ดี จากผลกระทบที่ชุมชนแม่ทาได้รับจากการที่ภาครัฐเปิดป่าให้มีการสัมปทาน

                       ไม้บริเวณขุนน้้าแม่ทาและการบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อขยายพื้นที่เกษตรกรรมโดยคนในชุมชนเอง ส่งผลให้
                       ทรัพยากรธรรมชาติโดยรอบชุมชนแม่ทาเริ่มเสื่อมโทรมลง ขณะเดียวกันการท้าเกษตรเชิงเดี่ยวที่มุ่ง

                       ผลิตพืชเพียงชนิดเดียวด้วยการใช้สารเคมีและปุ๋ยเคมีตามความเชื่อจากภายนอกที่เข้ามา ขณะที่คนแม่

                       ทาเองยังขาดองค์ความรู้ในการจัดการการเพาะปลูกดังกล่าว จึงเป็นการเร่งให้ทรัพยากรดิน น้้า และ
                       ป่าไม้ในเขตชุมชนแม่ทาถูกท้าลายเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงการด้าเนินชีวิตของคนในชุมชนเริ่มได้รับผลกระทบ

                       ด้วย เพื่อความอยู่รอดเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นผู้ได้รับผลกระทบย่อมต้องแสวงหาทางออก คนในชุมชนแม่
                       ทาก็เช่นเดียวกันที่มีพัฒนาการและสามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสังคมได้ทันท่วงที
   81   82   83   84   85   86   87   88   89   90   91