Page 218 - รายงานผลการดำเนินงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ 3 (วันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 ถึง 25 พฤษภาคม 2564)
P. 218

และมีข้อเสนอเกี่ยวกับการมีมาตรการเพื่อลดความเสี่ยง
                แถลงการณ์ เรื่อง สถานการณ์การแพร่ระบาด       การมีช่องทางการสื่อสารความรู้เรื่องการป้องกันโรค และ
                ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19)    การด�าเนินมาตรการของรัฐอย่างทั่วถึงและในรูปแบบ
                ฉบับที่ ๑ เมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๖๓
                                                             ที่สามารถเข้าใจได้ นอกจากนี้ ได้เผยแพร่แถลงการณ์/ข่าว
                                                             ประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องที่ส�าคัญ เช่น


                แถลงการณ์ เรื่อง สถานการณ์การแพร่ระบาด          แถลงการณ์ เรื่อง ข้อห่วงใยต่อสถานการณ์
                ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19)       การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
                (ฉบับที่ ๒) เมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๓
                                                                ๒๐๑๙  (COVID-19)  ระลอกใหม่  เมื่อวันที่
          รายงานผลการดำาเนินงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ ๓
                                                                ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๔


                โดยให้ความส�าคัญเกี่ยวกับการบูรณาการการท�างาน
            ระหว่างหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง การเปิดเผยข้อมูล  ข่าวประชาสัมพันธ์ เรื่อง กสม. ห่วงโควิด 19
            ข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคอย่าง       กระทบสิทธิผู้ต้องขังในเรือนจ�า แนะรัฐบาล
      สำ�นักง�นคณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชนแห่งช�ติ
            เป็นระบบและชัดเจน การแก้ปัญหาการขาดแคลน             ฉีดวัคซีนให้ผู้ต้องขังอย่างทั่วถึง เพื่อป้องกัน
            อุปกรณ์และสิ่งจ�าเป็นในการป้องกันโรค การให้การดูแล   และลดความรุนแรงของการแพร่ระบาด

            และเยียวยาเป็นพิเศษแก่กลุ่มเปราะบาง (ผู้มีรายได้น้อย    เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๔
            ผู้อาศัยในพื้นที่ห่างไกล ผู้สูงอายุ คนพิการ ฯลฯ) และ
            การมีมาตรการเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง
            เช่น ผู้ใช้แรงงานที่ต้องหยุดงานตามค�าสั่งหรือมาตรการ ๔.๗ เสรีภาพในการแสดงความ

            ของรัฐ เป็นต้น รวมทั้งได้จัดท�ารายงานผลการประเมิน  คิดเห็น การพูด การโฆษณา และ
            สถานการณ์เรื่องนี้ไว้เป็นส่วนหนึ่งในรายงานผล  เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ
            การประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง

            ประจ�าปี ๒๕๖๓
                                                                สถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในปี ๒๕๖๓
                ส่วนการระบาดในรอบที่ ๒ เมื่อเดือนธันวาคม ๒๕๖๓  เริ่มตั้งแต่วันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๖๓ โดยประชาชนส่วนหนึ่ง
            เป็นต้นมา กสม. ชุดที่ ๓ ได้แต่งตั้งคณะท�างานติดตาม จัดกิจกรรมทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด
            สถานการณ์และเฝ้าระวังผลกระทบของการแพร่ระบาด มีวัตถุประสงค์คือ ๑) ให้รัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
            ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID - 19)  ๒) แก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย
            และเมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๓ ได้จัดท�าเอกสารข่าว  และเปิดช่องให้ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็น
            เรื่อง “กสม. ห่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส ได้อย่างเสรี และ ๓) หยุดใช้อ�านาจเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง
            โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID - 19) ระลอกใหม่ ส่งผลกระทบ  และหยุดรังแกผู้เห็นต่าง ต่อมานายกรัฐมนตรีได้อาศัย

            ด้านสิทธิมนุษยชนในหลายมิติ  ขอรัฐประกันสิทธิ  อ�านาจตามมาตรา ๙ แห่งพระราชก�าหนดการบริหาร
            ในสุขภาพและการด�ารงชีพ - สังคมไม่ตีตราผู้ได้รับ ราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ประกาศ
            ผลกระทบ” มีเนื้อหาเกี่ยวกับความกังวลต่อการเข้าถึง สถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร มีผลตั้งแต่วันที่ ๒๖
            การรักษาพยาบาลและมาตรการป้องกันด้านสาธารณสุข มีนาคม ๒๕๖๓ และออกข้อก�าหนดเพื่อควบคุมการแพร่
            อย่างทั่วถึงของประชาชนทั้งคนไทยและแรงงานต่างด้าว  ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19)
            ในพื้นที่การระบาดสูง โดยเฉพาะการใช้มาตรการควบคุม รวมถึงการห้ามการชุมนุม ในเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๓
            การเข้า-ออกและการเคลื่อนย้ายของแรงงานต่างด้าว  รัฐบาลได้ผ่อนปรนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด

            ในพื้นที่ดังกล่าว การมีสภาพความเป็นอยู่ที่แออัดและ  โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) โดยออกประกาศ
            ยังไม่สามารถแยกผู้ที่อาจติดเชื้อและไม่ติดเชื้อออกจากกันได้   ข้อก�าหนด (ฉบับที่ ๑๓) ให้สามารถมีกิจกรรมรวมกลุ่มหรือ



       216
   213   214   215   216   217   218   219   220   221   222   223