Page 223 - รายงานผลการดำเนินงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ 3 (วันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 ถึง 25 พฤษภาคม 2564)
P. 223

๕.๒ การใช้มาตรการด้านกฎหมาย ข้อเสนอแนะในประเด็นส�าคัญเกี่ยวกับหน้าที่และอ�านาจ
              และการบริหารในการผลักดัน  ของ กสม. รวมทั้งอ�านาจในการไกล่เกลี่ยเพื่อคุ้มครอง                         1
              ให้เกิดการส่งเสริมและคุ้มครอง สิทธิมนุษยชน เป็นต้น
              สิทธิมนุษยชน                                                                                         2

                                                                  เมื่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช
                 กสม. ชุดที่ ๓ ได้น�ามาตรการด้านกฎหมายและ ๒๕๖๐ และ พ.ร.ป. กสม. ๒๕๖๐ มีผลใช้บังคับ กสม.             3
              การบริหารมาใช้ผลักดัน และเสริมสร้างความเข้มแข็ง  ชุดที่ ๓ ได้พิจารณาตราระเบียบ ประกาศ แนวปฏิบัติ

              ของกลไกในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน  และแนวทางเพื่อเป็นแนวทางการท�างานของ กสม.
              ที่สอดคล้องตามหลักการปารีสหลายประการ กล่าวคือ  และส�านักงาน กสม. ที่สอดคล้องตามบทบัญญัติแห่ง พ.ร.ป.    4
              ในระหว่างการจัดท�าร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย   กสม. ๒๕๖๐ รวมทั้งหลักการสิทธิมนุษยชน อาทิ ระเบียบ
              โดยคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ (นายบวรศักดิ์   กสม. ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจดแจ้ง   5
              อุวรรณโณ เป็นประธาน) กสม. ชุดที่ ๓ ได้จัดท�าความเห็น  การรับจดแจ้ง และการเลือกกันเองขององค์กรเอกชนด้าน
              และข้อเสนอแนะต่อร่างรัฐธรรมนูญไปยังคณะกรรมาธิการ  สิทธิมนุษยชนและสภาวิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๖๑ ระเบียบ กสม.
              ยกร่างรัฐธรรมนูญ มีประเด็นส�าคัญเกี่ยวกับการยุบหรือ  ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งและการปฏิบัติหน้าที่
              ควบรวมองค์กร กสม. กับผู้ตรวจการแผ่นดิน องค์ประกอบ ของพนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๖๑ ประกาศเรื่อง
              ของคณะกรรมการสรรหากรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ   การแบ่งส่วนราชการภายในและขอบเขตอ�านาจหน้าที่และ

              เป็นต้น ต่อมาเมื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวไม่ผ่าน อ�านาจของส่วนราชการสังกัดส�านักงาน กสม. พ.ศ. ๒๕๖๑
              ความเห็นชอบจากสภาปฏิรูปแห่งชาติอันมีผลให้ต้องตกไป  รวมถึงได้ริเริ่มให้มีความร่วมมือกันระหว่างองค์กรอิสระ
              คสช. จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญใหม่  ตามรัฐธรรมนูญฉบับ ๒๕๖๐ อย่างเป็นรูปธรรมขึ้น โดยเฉพาะ
              (นายมีชัย ฤชุพันธ์ เป็นประธาน) กสม. ชุดที่ ๓ ก็ได้จัด การร่วมกันก�าหนดแนวปฏิบัติในการรับส่งเรื่องระหว่าง
              ท�าความเห็นและข้อเสนอแนะต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้  องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ การจัดให้มีการประชุมร่วมกัน
              ในระหว่างกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย   เป็นประจ�าทุก ๓ เดือน
              พุทธศักราช ๒๕๖๐ ไปยังคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญนี้

              ต่อมาเมื่อคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญได้จัดท�า      ส�าหรับมาตรการด้านบริหาร กสม. ชุดที่ ๓ ได้มี
              ร่าง พ.ร.ป. กสม. เสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กสม.  การแบ่งขอบเขตความรับผิดชอบของกรรมการสิทธิมนุษยชน
              ชุดที่ ๓ ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการพิจารณาให้ความเห็น แห่งชาติแต่ละคน ทั้งตามประเด็นสิทธิมนุษยชนและ
              ต่อร่าง พ.ร.ป. กสม. ทั้งในขั้นตอนการพิจารณาของ  ตามเขตพื้นที่ อันช่วยเสริมให้ กสม. โดยรวมสามารถ     ปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะ
              คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ และในขั้นตอนการพิจารณา  ปฏิบัติหน้าที่ในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
              ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ  โดยให้ความเห็นและ  ได้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น



                 ข้อเสนอเพื่อการพัฒนา
                 โดยที่ พ.ร.ป. กสม. ๒๕๖๐ มาตรา ๘ ก�าหนดคุณสมบัติของกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเป็น ๕ ด้าน
                 การแบ่งขอบเขตความรับผิดชอบของกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติแต่ละคนนอกจากค�านึงถึงมิติด้านพื้นที่
                 ประเด็นสิทธิมนุษยชนแล้ว อาจพิจารณาให้ครอบคลุมและสอดคล้องกับมิติเรื่องคุณสมบัติตามมาตรา ๘ และ
                 มิติด้านหน้าที่และอ�านาจตามมาตรา ๒๖ ประกอบด้วย















                                                                                                                 221
   218   219   220   221   222   223   224   225   226   227   228