Page 83 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563

082

กรณีที่ 9 การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวีในการรับเข้าท�างานกับบริษัทเอกชน

ประเด็นการร้องเรียน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้รับเรื่องร้องเรียนขอให้ตรวจสอบ กรณี
บริษัท ล. ส่งตัวพนักงานที่อยู่ระหว่างการทดลองงานเข้ารับการตรวจสุขภาพกับโรงพยาบาล

เอกชนแห่งหนึ่ง โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าว่าจะต้องตรวจหาเชื้อเอชไอวี และโรงพยาบาล
ดังกล่าวได้ส่งผลการตรวจสุขภาพให้กับบริษัท ล. ซึ่งต่อมาผลการตรวจสุขภาพเกิดรั่วไหล
ท�าให้พนักงานผู้ติดเชื้อเอชไอวีได้รับความอับอาย และถูกเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยหรือ
ค่าเสียหายใดๆ ซึ่งผู้ร้องเห็นว่าเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี

การด�าเนินการ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพิจารณาแล้ว เห็นว่า
ประเด็นที่ 1 กรณีบริษัท ล. ส่งตัวพนักงานที่อยู่ระหว่างการทดลองงานเข้ารับ
การตรวจสุขภาพกับโรงพยาบาล ก่อนที่จะบรรจุเป็นพนักงานประจ�าโดยไม่แจ้งให้ทราบ
ล่วงหน้าว่าจะต้องตรวจหาเชื้อเอชไอวี เพื่อคัดกรองตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการท�างาน
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของผู้ที่จะเป็นพนักงาน แต่ระเบียบดังกล่าวมิได้ระบุหรือ

ครอบคลุมถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคติดเชื้อเอชไอวี หรือโรคเอดส์ การตรวจสุขภาพ
ของพนักงานเพื่อตรวจหาเชื้อเอชไอวีจึงเป็นการด�าเนินการเกินความจ�าเป็นนอกเหนือ
จากขอบเขตของระเบียบ อีกทั้งไม่สอดคล้องกับประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง แนวทาง

การป้องกันและบริหารจัดการด้านเอดส์และวัณโรคในสถานประกอบกิจการ ลงวันที่ 25
กรกฎาคม 2555 และแนวทางปฏิบัติแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและบริหารจัดการด้านเอดส์
ในสถานที่ท�างาน ลงวันที่ 21 สิงหาคม 2552 ที่ก�าหนดแนวทางการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
ในการปฏิบัติต่อลูกจ้างและผู้สมัครงานอย่างเท่าเทียมกัน และขจัดการเลือกปฏิบัติโดยไม่
เป็นธรรมต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี ดังนั้น การกระท�าของบริษัท ล. จึงเป็นการก�าหนดเงื่อนไข

ในการจ้างงาน โดยอาศัยเหตุความแตกต่างในเรื่องสภาพทางกายหรือสุขภาพ อีกทั้งไม่ได้
แจ้งให้พนักงานทราบล่วงหน้าว่าจะต้องตรวจหาเชื้อเอชไอวี จึงถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดย
ไม่เป็นธรรมต่อพนักงานผู้ติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งขัดต่อหลักความเสมอภาค อันเป็นการละเมิด

สิทธิมนุษยชน ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 4 และ
มาตรา 27 กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ข้อ 2 และ
ข้อ 26 และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ข้อ 2 และ
ข้อ 6 ได้รับรองไว้
ประเด็นที่ 2 กรณีบริษัท ล. แจ้งการเลิกจ้างพนักงานผู้ติดเชื้อเอชไอวี เป็นการอ้าง

การติดเชื้อเอชไอวีเพื่อเป็นเงื่อนไข หรือเป็นหลักเกณฑ์ตัดสินว่าพนักงานผู้นั้นขาดคุณสมบัติ
ในการท�างานไม่สนับสนุนผู้ติดเชื้อเอชไอวีให้ได้รับโอกาสในการท�างานโดยไม่เลือกปฏิบัติ
ซึ่งไม่สอดคล้องตามประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง แนวทางการป้องกันและบริหารจัดการ

ด้านเอดส์และวัณโรคในสถานประกอบกิจการ ลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2555 และแนวทาง
ปฏิบัติแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและบริหารจัดการด้านเอดส์ในสถานที่ท�างาน ลงวันที่ 21
สิงหาคม 2552 ที่ให้ความคุ้มครองผู้ติดเชื้อเอชไอวีให้สามารถท�างาน หรือให้อยู่ในสถานภาพ
ลูกจ้างต่อไป โดยได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย จึงเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม