Page 87 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
P. 87
086
การด�าเนินการ (ต่อ) ต่อบุคคลซึ่งท�างานในลักษณะอย่างเดียวกัน ด้วยเหตุแห่งสถานะและรูปแบบการจ้างแรงงาน
ที่แตกต่างกัน อันเนื่องมาจากการแสดงเจตนาของคู่สัญญาตามหลักเสรีภาพในการแสดง
เจตนาเท่านั้น แต่ด้วยนิติสัมพันธ์ในทางจ้างแรงงานที่คู่สัญญามีสถานะที่ไม่เท่าเทียมกัน
ในทางความเป็นจริง จึงก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการจ้างแรงงาน ผู้ท�างานที่มีคุณค่า
เท่ากันกลับไม่ได้รับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการที่เท่าเทียมและเป็นธรรม จึงเป็นการเลือก
ปฏิบัติและลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ของแรงงาน อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อ
ลูกจ้างรับเหมาค่าแรง
ในระหว่างการตรวจสอบ ลูกจ้างรับเหมาค่าแรงบางส่วนได้ยื่นฟ้องผู้ถูกร้องต่อศาล
แรงงานภาค 2 ในกรณีที่นายจ้างฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน
พ.ศ. 2541 มาตรา 11/1 วรรคสอง ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน
(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ต่อมา ได้มีการไกล่เกลี่ยและยอมความกันในชั้นศาล โดยผู้ถูกร้อง
ยินยอมจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างรับเหมาค่าแรงซึ่งเป็นโจทก์ในคดีดังกล่าว คนละ 50,000
บาท และจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างรับเหมาค่าแรงซึ่งมิได้เป็นโจทก์ คนละ 10,000 บาท
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจึงมีมติให้ยุติเรื่อง กรณีเป็นเรื่องที่มีการฟ้องร้องเป็น
คดีอยู่ในศาลหรือเรื่องที่ศาลมีค�าพิพากษา ค�าสั่ง หรือค�าวินิจฉัยเสร็จเด็ดขาดแล้ว
ข้อเสนอแนะมาตรการ 1. ผู้ถูกร้องควรน�าหลักการชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน
หรือแนวทางในการ (United Nations Guiding Principles on Business and Human Rights: UNGPs)
ส่งเสริมและคุ้มครอง
สิทธิมนุษยชน ในส่วนที่ 2 ซึ่งเกี่ยวกับความรับผิดชอบของภาคธุรกิจในการเคารพสิทธิมนุษยชน ซึ่งรวมถึง
รวมตลอดทั้งการแก้ไข สิทธิขั้นพื้นฐานในการท�างาน ให้เป็นไปตามแนวทางในการด�าเนินธุรกิจที่ต้องเคารพ
ปรับปรุงกฎหมาย สิทธิมนุษยชน โดยค�านึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนในการท�าสัญญาจ้างเหมาค่าแรงและจัด
กฎ ระเบียบหรือค�าสั่ง
สิทธิประโยชน์และสวัสดิการให้แก่ลูกจ้างรับเหมาค่าแรงอย่างเป็นธรรมโดยไม่เลือกปฏิบัติ
ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 11/1 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 อย่างจริงจัง
2. คณะรัฐมนตรีควรมอบหมายให้กระทรวงแรงงาน ในฐานะหน่วยงานผู้รับผิดชอบ
การด�าเนินการตามแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (National
Action Plan on Business and Human Rights: NAP) ด�าเนินการเพื่อให้การบังคับ
ใช้กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้อง
กับเจตนารมณ์ของกฎหมายอย่างแท้จริง ดังนี้
2.1 ทบทวนและปรับปรุงแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานที่ยังมี
ช่องว่างระหว่างกฎหมายและทางปฏิบัติ โดยพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติมาตรา 11/1
แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ
คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ให้มีความชัดเจนทั้งในเรื่องลักษณะความสัมพันธ์
ของการจ้างแรงงานในรูปแบบการจ้างเหมาค่าแรง ขอบเขตและมูลเหตุจ�าเป็นในการจ้าง
เหมาค่าแรง และหลักเกณฑ์ในทางปฏิบัติ รวมทั้งควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของ
บทก�าหนดโทษตามมาตรา 144/1 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไข
เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ให้ได้สัดส่วนกับ