Page 86 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
P. 86
รายงานผลการปฎิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 085
ประจ�าปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
ความส�าเร็จ/ มั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข ส�านักงาน
ความก้าวหน้าในการ คณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาแนวทางหรือผลการด�าเนินการ
คุ้มครองสิทธิมนุษยชน
(ต่อ) ดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้ส�านักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้
รับแจ้งค�าสั่งเพื่อน�าเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
2) โรงพยาบาลดังกล่าวแจ้งว่า ได้ประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องให้ปฏิบัติงานโดยมิให้ละเมิด
สิทธิมนุษยชนแก่ผู้รับบริการ โดยก�าหนดบทบาทของเจ้าหน้าที่แต่ละแผนกที่เกี่ยวข้องให้
ปฏิบัติตามมติที่ประชุมอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรที่ก�าหนดขึ้นทันที ตามคู่มือโรงพยาบาล
เรื่อง มาตรฐานการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อ HIV ซึ่งได้ก�าหนดมาตรฐานการคุ้มครองผู้ติดเชื้อ
HIV ไว้ โดยจะรักษาความลับของผู้ติดเชื้อ ไม่แสดงสัญลักษณ์หรือให้ข้อมูลใดๆ ต่อสาธารณะ
นอกจากนี้ โรงพยาบาลยังได้ก�าหนดบทบาทและความรับผิดชอบของโรงพยาบาลในการให้
บริการ ในด้านการคุ้มครองสิทธิของผู้รับบริการและผู้ให้บริการด้วยแล้ว รวมทั้งจัดอบรม
เจ้าหน้าที่ให้ทราบถึงการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด จัดให้มีการทบทวนคู่สัญญา
เกี่ยวกับเงื่อนไขบริษัทที่ต้องการตรวจหาเชื้อไวรัสเอดส์ทุกราย ถ้าพบว่าบริษัทมีความจ�าเป็น บทที่
3
ต้องตรวจ จะอธิบายถึงการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนให้บริษัททราบ เพื่อไม่ให้เกิดการละเมิด
สิทธิมนุษยชนของพนักงาน
กรณีที่ 10 สิทธิแรงงานอันเกี่ยวเนื่องกับความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ กรณีกล่าวอ้างว่าลูกจ้างรับเหมา
ค่าแรงไม่ได้รับความเป็นธรรมเกี่ยวกับสวัสดิการในการท�างาน
ประเด็นการร้องเรียน ผู้ร้องเป็นผู้แทนของลูกจ้างรับเหมาค่าแรง ที่ท�างานอยู่ในสถานประกอบกิจการ
ของผู้ถูกร้อง ซึ่งจ้างลูกจ้างบางส่วนโดยวิธีการเหมาค่าแรงมาตั้งแต่ปี 2544 โดยมอบหมาย
ให้บริษัทรับเหมาค่าแรง 4 แห่ง เป็นผู้จัดหาคนเข้ามาท�างาน โดยมีลักษณะการท�างาน
เช่นเดียวกับลูกจ้างตามสัญญาจ้างโดยตรง สามารถท�างานทดแทนกันได้ในทุกกรณีเมื่อได้
รับมอบหมาย แต่ได้รับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการแตกต่างกันมาก เมื่อปี 2560 ผู้ร้อง
กับพวกได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อส�านักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด
ปราจีนบุรี และนายกรัฐมนตรี ซึ่งพนักงานตรวจแรงงาน ส�านักงานสวัสดิการและคุ้มครอง
แรงงานจังหวัดปราจีนบุรี ได้มีค�าสั่ง ที่ 11/2561 ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 ให้ผู้ถูกร้อง
จัดสิทธิประโยชน์และสวัสดิการให้แก่ลูกจ้างรับเหมาค่าแรงเช่นเดียวกับลูกจ้างที่ผู้ถูกร้อง
จ้างเองโดยตรง คือ สิทธิในการหยุดพักผ่อนประจ�าปีเพิ่มขึ้นตามอายุงาน การได้รับเงิน
ช่วยเหลือค่าครองชีพ และการได้รับเงินโบนัสประจ�าปี แต่ผู้ถูกร้องได้อุทธรณ์ค�าสั่งดังกล่าว
ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี
การด�าเนินการ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง สรุปได้ว่า ผู้ถูกร้อง
ได้จ้างลูกจ้างโดยวิธีเหมาค่าแรง โดยมอบหมายให้บริษัทรับเหมาค่าแรง 4 แห่ง เป็นผู้จัดหา
คนเข้ามาท�างานในต�าแหน่งหน้าที่พนักงานฝ่ายผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า การที่ผู้ถูกร้องมิได้จัด
ให้ลูกจ้างรับเหมาค่าแรงซึ่งท�างานในลักษณะเดียวกันกับลูกจ้างตามสัญญาจ้างโดยตรง
ได้รับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการที่เป็นธรรมโดยเท่าเทียมกันนั้น เป็นการปฏิบัติที่แตกต่างกัน