Page 84 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563

รายงานผลการปฎิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 083
ประจ�าปีงบประมาณ พ.ศ. 2563

การด�าเนินการ (ต่อ) ในการจ้างงาน โดยอาศัยเหตุความแตกต่างในเรื่องสภาพทางกายหรือสุขภาพ แต่อย่างไร
ก็ตาม ภายหลังบริษัท ล. ได้ให้พนักงานคนดังกล่าวไปท�างานกับบริษัทในเครือเดียวกันแล้ว
จึงเป็นกรณีตามมาตรา 39 (5) ประกอบมาตรา 39 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกอบ

รัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งบัญญัติให้คณะกรรมการ
สิทธิมนุษยชนแห่งชาติสั่งยุติเรื่อง หากเป็นเรื่องที่มีการแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสมแล้ว
จึงมีมติให้ยุติเรื่องในประเด็นนี้

ประเด็นที่ 3 กรณีโรงพยาบาลเอกชนส่งผลการตรวจสุขภาพของพนักงานอันเป็น
ข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัท ล. ตามข้อตกลงที่ท�าไว้ และเกิดการรั่วไหลของผลการตรวจ
สุขภาพของพนักงานผู้ติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองตาม
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 32 ประกอบกับข้อบังคับ
แพทยสภาว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2549 ข้อ 27 ที่ก�าหนดให้

ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมต้องไม่เปิดเผยความลับของผู้ป่วย ซึ่งตนทราบมาเนื่องจาก
การประกอบวิชาชีพ เว้นแต่ได้รับความยินยอมโดยชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้น การกระท�าของ บทที่
โรงพยาบาลดังกล่าว จึงเป็นการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นความลับโดยเจ้าของข้อมูล 3

มิได้ให้ความยินยอม อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
จึงมีมติว่า การกระท�าของบริษัท ล. และโรงพยาบาลดังกล่าวเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อ
ผู้ติดเชื้อเอชไอวี และให้เสนอแนะมาตรการหรือแนวทางที่เหมาะสมในการป้องกันหรือแก้ไข
การละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อบริษัท ล. และโรงพยาบาลฯ กับทั้งให้มีข้อเสนอแนะมาตรการ
หรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนต่อกระทรวงแรงงานและกระทรวง

สาธารณสุข รวมทั้งข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับ
หลักสิทธิมนุษยชนชนต่อรัฐสภาและคณะรัฐมนตรี

มาตรการหรือแนวทาง 1) บริษัท ล. ควรทบทวนข้อก�าหนดหรือเงื่อนไขการรับบริการตรวจสุขภาพพนักงาน
ที่เหมาะสมในการป้องกัน ที่ให้โรงพยาบาลฯ หรือสถานพยาบาลอื่น ตรวจหาเชื้อเอชไอวีก่อนรับพนักงานเข้าท�างาน
หรือแก้ไขการละเมิด
สิทธิมนุษยชน ทุกต�าแหน่ง โดยการยกเลิกการอาศัยเหตุในเรื่องการไม่เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีเป็นเงื่อนไข
คุณสมบัติในการจ้างงานและหากจ�าเป็นต้องส่งพนักงานเข้ารับการตรวจสุขภาพ
ตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการท�างาน ควรแจ้งรายการตรวจสุขภาพทั้งหมดให้พนักงาน
ทราบล่วงหน้าทุกครั้ง
2) บริษัท ล. ควรจัดท�านโยบายการป้องกันและบริหารจัดการด้านเอดส์ในสถาน

ประกอบกิจการไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ให้สอดคล้องกับประกาศกระทรวงแรงงาน
เรื่อง แนวทางการป้องกันและบริหารจัดการด้านเอดส์และวัณโรคในสถานประกอบกิจการ
ลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2555 โดยอย่างน้อยต้องมีสาระส�าคัญเกี่ยวกับการรับสมัครงานและ
การจ้างงาน การก�าหนดคุณสมบัติของพนักงาน การให้ท�างาน ความก้าวหน้าในการท�างาน

และการรักษาความลับส่วนบุคคล รวมทั้งจัดให้มีระบบเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกจ้าง
ที่ไม่เป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี โดยปิดประกาศนโยบายดังกล่าว
ไว้ในสถานประกอบกิจการ และจัดให้มีการชี้แจงท�าความเข้าใจให้แก่ผู้บริหารและ
ลูกจ้างทุกระดับ เพื่อน�าไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง โดยด�าเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน

นับแต่วันที่ได้รับรายงานนี้