Page 82 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
P. 82
รายงานผลการปฎิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 081
ประจ�าปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
ข้อเสนอแนะมาตรการ 2) ส�านักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราช
หรือแนวทางในการ บัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 และเทศบาลต�าบลนาในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามพระราช
ส่งเสริมและคุ้มครอง
สิทธิมนุษยชน (ต่อ) บัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ควรเพิ่มมาตรการพิเศษในการเฝ้าระวังและตรวจสอบ
การประกอบกิจการโรงงานของบริษัทน�้ามันปาล์มดังกล่าว อย่างต่อเนื่องโดยกระบวนการ
มีส่วนร่วมจากประชาชน เพื่อป้องกันไม่ให้ก่อมลพิษและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน
เนื่องจากที่ตั้งโรงงานของบริษัทน�้ามันปาล์ม อยู่บนเนินเขาและใกล้แหล่งน�้าสาธารณะ
ที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน และมีเหตุการณ์น�้าเสียของโรงงานไหลออกนอกเขต
ที่หลายครั้ง
ความส�าเร็จ/ 1) เทศบาลต�าบลแจ้งว่า ได้แก้ไขเงื่อนไขท้ายใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็น
ความก้าวหน้าในการ อันตรายต่อสุขภาพ และเพิ่มมาตรการพิเศษในการเฝ้าระวังและตรวจสอบการประกอบ
คุ้มครองสิทธิมนุษยชน
กิจการโรงงาน โดยมอบหมายให้เจ้าพนักงานสาธารณสุขผู้ได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าพนักงาน บทที่
ท้องถิ่น เข้าตรวจสอบการประกอบกิจการโรงงาน และร่วมมือกับเครือข่ายพิทักษ์สิ่งแวดล้อม 3
ต�าบลตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติแล้ว
2) ส�านักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตรังแจ้งว่า ได้มีข้อสั่งการและตรวจสอบติดตาม
ผลการด�าเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อก�ากับดูแล ให้ค�าปรึกษาแนะน�าและเสนอแนวทาง
การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแก่ผู้ประกอบการ โดยพิจารณาด�าเนินการตามข้อเสนอแนะของ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 และมีมาตรการ
พิเศษในการเฝ้าระวังและตรวจการประกอบกิจการโรงงานของบริษัทน�้ามันปาล์ม
ดังกล่าวแล้ว
3) บริษัทน�้ามันปาล์มแจ้งว่า ได้มีการเจรจาและชดเชยเยียวยาความเสียหายให้กับ
ผู้ที่เกี่ยวข้องโดยทันที ส�าหรับการประกอบกิจการและปฏิบัติตามหลักการเรื่องธุรกิจกับ
สิทธิมนุษยชน เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของชุมชนและ
บุคคลที่อาศัยอยู่ใกล้เคียง บริษัทฯ ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการน�าน�้าเสียบ่อสุดท้ายไปใช้ประโยชน์
เพื่อป้องกันน�้าซึมออกจากสวนปาล์ม และมีมาตรการให้พนักงานผู้รับผิดชอบตรวจสอบพื้นที่
และรายงานต่อผู้บริหารโดยตรงทุกวัน และกรณีน�้าเสียของบริษัทฯ ซึ่งยังไม่ผ่านมาตรฐาน
น�้าทิ้งตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม จากการตรวจวิเคราะห์หาค่าธาตุอาหาร พบว่า
น�้าเสียดังกล่าวมีธาตุอาหารที่สามารถน�าไปเป็นปุ๋ยได้ ดังนั้น บริษัทฯ จึงปรับเปลี่ยนวิธีการน�า
น�้าเสียบ่อสุดท้ายไปใช้ประโยชน์ โดยเป็นระบบน�้าหยดและน�้าฝอยเพื่อใช้ทดแทนการให้ปุ๋ย
แก่ต้นปาล์มในพื้นที่ภายในสวนปาล์มของบริษัทฯ ภายหลังจากการด�าเนินการแก้ไขปัญหา
ดังกล่าว บริษัทได้ติดตามผลการแก้ไขปัญหากับผู้ร้องเรียนมาโดยตลอด ปรากฏว่า ตั้งแต่
เดือนมิถุนายน 2562 จนถึงปัจจุบัน ไม่มีปัญหาน�้าเสียไหลลงล�ารางสาธารณะและพื้นที่ของ
ผู้ร้องเรียนและพื้นที่ข้างเคียงอีก
