Page 109 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563

108

เจริญพันธุ์ที่จ�าเป็น ซึ่งหมายความรวมถึงการวางแผนครอบครัว เทคโนโลยีทางการแพทย์ ระยะเวลาในการรับรู้การตั้งครรภ์และ
การคุมก�าเนิด การทดสอบ การตั้งครรภ์ การดูแลและให้ การเข้าสู่กระบวนการให้ค�าปรึกษาเพื่อรับบริการยุติการตั้งครรภ์
ค�าปรึกษาทั้งก่อนและหลังการตั้งครรภ์ และการยุติการตั้งครรภ์ มาพิจารณาประกอบด้วย

เพื่อให้สถานบริการด้านสาธารณสุขมีความพร้อมทั้งในด้าน
บุคลากร เครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ และสถานที่ส�าหรับ ให้บริการ 2.3) คณะรัฐมนตรีควรพิจารณามอบหมายให้
ประชาชนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัยอย่างเสมอภาคและทั่วถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาและด�าเนินการแก้ไขปรับปรุง
กฎหมายอื่นที่เกี่ยวกับการยุติการตั้งครรภ์ ได้แก่ พระราชบัญญัติ

2) ข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559
กฎ ระเบียบ หรือค�าสั่งใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการยุติการตั้งครรภ์ พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการ
เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน เจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวกับ
การสงเคราะห์และส่งเสริมสวัสดิการสังคม รวมถึงกฎ ระเบียบ

2.1) รัฐสภาควรพิจารณาแก้ไขปรับปรุงประมวล ประกาศ และข้อบังคับอื่นใดที่อาศัยอ�านาจตามกฎหมาย
กฎหมายอาญา มาตรา 301 โดยก�าหนดอายุครรภ์ที่เหมาะสม ที่เกี่ยวข้องกับการยุติการตั้งครรภ์ ให้สอดรับกับแนวคิดและ
ไว้ในบทบัญญัติของกฎหมาย เพื่อรับรองและคุ้มครองสิทธิของ หลักการในการแก้ไขปรับปรุงประมวลกฎหมายอาญา รวมถึง
หญิงมีครรภ์ให้สามารถตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ได้โดยชอบด้วย ก�าหนดแนวทางหรือมาตรฐานการปฏิบัติ กระบวนการ และ

กฎหมาย ซึ่งจะต้องค�านึงถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ขั้นตอนในการยุติการตั้งครรภ์ทั้งก่อนและหลังยุติการตั้งครรภ์
และปลอดภัย รวมถึงระยะเวลาและความสามารถในการเข้าถึง ตลอดจนกลไกในการขับเคลื่อนกฎหมายให้เกิดผลในทาง
บริการยุติการตั้งครรภ์ของผู้รับบริการ โดยอายุครรภ์ที่มีความ ปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม เช่น การแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติ
เหมาะสมในการยุติการตั้งครรภ์ คือ ช่วงอายุครรภ์ระหว่าง การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559

12-20 สัปดาห์ เนื่องจากเป็นช่วงระยะเวลาที่ยังมีความปลอดภัย ให้ครอบคลุมถึงการส่งเสริมและสนับสนุนสิทธิในสุขภาพ
แก่หญิงในการยุติการตั้งครรภ์และตัวอ่อนในครรภ์ยังมีอวัยวะ และอนามัยการเจริญพันธุ์ของหญิงมีครรภ์ทุกช่วงวัย รวมทั้ง
ที่ส�าคัญไม่ครบถ้วนเพียงพอที่จะคลอดแล้วมีชีวิตรอดได้อย่าง การก�าหนดให้มีกลไกช่วยเหลือให้การตั้งครรภ์เป็นการตั้งครรภ์
แน่แท้ ประกอบกับเป็นช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมแก่การรับรู้ ที่พึงประสงค์และได้รับการคุ้มครองจากแรงกดดันทางเศรษฐกิจ

การตั้งครรภ์ การเข้าถึงช่องทางในการรับบริการให้ค�าปรึกษา และสังคม เพื่อให้การยุติการตั้งครรภ์เป็นทางเลือกสุดท้าย
ทางเลือกและการให้บริการยุติการตั้งครรภ์ เพื่อให้หญิงมีครรภ์ ส�าหรับหญิงมีครรภ์ เป็นต้น ทั้งนี้ ควรมอบหมายให้กระทรวง
มีข้อมูลและระยะเวลาที่เพียงพอแก่การตัดสินใจ ได้รับการ สาธารณสุขเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการด�าเนินการดังกล่าว
ประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพกายและจิตใจ และสามารถเตรียม และเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาค

ความพร้อมหรือวางแผนการใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างเหมาะสม ประชาสังคม และองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน เข้ามามีส่วนร่วม
พิจารณาและให้ความเห็นประกอบการด�าเนินการด้วย
2.2) รัฐสภาควรพิจารณาแก้ไขถ้อยค�าตามประมวล
กฎหมายอาญา มาตรา 305 จากค�าว่า “นายแพทย์” เป็นค�าว่า 3.2.6 ข้อเสนอแนะฯ เรื่อง หลักสูตรสิทธิมนุษยชนศึกษา

“ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม” เพื่อให้การคุ้มครองบุคลากร ส�าหรับกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายและคู่มือการจัดการ
ทางการแพทย์ที่ให้บริการยุติการตั้งครรภ์ตามหลักเกณฑ์และ เรียนรู้สิทธิมนุษยชนศึกษาส�าหรับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
เงื่อนไขของกฎหมาย รวมถึงการพิจารณาก�าหนดเหตุยกเว้น
ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 305 เพิ่มเติม ประเด็น/ความเป็นมา

ให้ครอบคลุมเหตุผลความจ�าเป็นในการยุติการตั้งครรภ์ทั้งมิติ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ให้ความส�าคัญ
ด้านสุขภาพและด้านเศรษฐกิจและสังคม อาทิ ความผิดปกติ กับงานสิทธิมนุษยชนศึกษาจึงได้ด�าเนินการอย่างมีส่วนร่วมกับ
ของตัวอ่อนในครรภ์ ความล้มเหลวในการคุมก�าเนิด รวมไปถึง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิทธิมนุษยชนศึกษา ผู้แทนสถาบันการศึกษา
เหตุผลความจ�าเป็นอื่น ๆ โดยน�าเรื่องความเจริญก้าวหน้าของ ในระดับอุดมศึกษา และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดท�า