Page 142 - รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัย เรื่อง การประเมินข้อมูลพื้นฐานระดับชาติด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชน : นโยบาย กฎหมาย และมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนของประเทศ
P. 142
3.3.7 การลงทุนระหว่างประเทศ และบรรษัทข้ามชาติ
การลงทุนข้ามชาติเกิดขึ้นได้ใน 2 ลักษณะ คือ การลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทย และการ
ลงทุนของไทยที่ไปลงทุนที่ต่างประเทศ
ในส่วนที่ 1 นั้น จะมีประเด็นที่ทุนต่างชาติเข้ามาดำเนินการโครงการและเกิดข้อพิพาทกับชุมชนในบาง
พื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษอย่าง EEC และ SEZ หากแต่ว่า เป็นข้อพิพาทตามกฎหมายอื่นที่
เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจ ไม่ใช่ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายการลงทุนแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในส่วนของ
การลงทุนดังกล่าวจะมีกลไกเยียวยาส่วนที่เป็นองค์กรศาล และองค์กรตรวจสอบอื่น ๆ ของรัฐ ตลอดจนองค์กร
พัฒนาเอกชนอย่างส่วนภาคประชาสังคม ที่ทำหน้าที่ติดตามและแก้ไขให้เป็นไปตามกฎหมายอื่นที่ถูกละเมิดได้
อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับส่วนที่ 2 การลงทุนของไทยที่ไปลงทุนที่ต่างประเทศ ข้อมูลจากการสัมภาษณ์พบว่า กรณีของ
การลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทย ส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนของบริษัทที่ค่อนข้างใหญ่ ซึ่งอยู่
ภายใต้มาตรการการคุ้มครองด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนในระดับของประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งมีมาตรฐานที่สูง
กว่ามาตรฐานของไทยในปัจจุบัน ทำให้ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนของบริษัทต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทย
ในช่วงที่ผ่านมายังไม่พบว่ามีปัญหาแต่อย่างใด ข้อมูลเสริมจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จากการ
จัดประชุมกลุ่มย่อยระบุว่า คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนไม่ได้มีหน้าที่โดยตรงในการดูแลในเรื่องของการ
ละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่หากบริษัทที่เข้ามาลงทุนในไทยและเข้ามาขอสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีขององค์กรมี
การละเมิดสิทธิมนุษยชนก็จะต้องถูกยกเลิกการให้สิทธิประโยชน์ ทั้งนี้ ยังไม่เคยพบว่ามีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้น
ในช่วงที่ผ่านมา
ในทางตรงกันข้าม การลงทุนของธุรกิจไทยในต่างประเทศกลับเป็นจุดอ่อนที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
การลงทุนของธุรกิจไทยในประเทศที่มีระดับการพัฒนาที่ล้าหลังกว่าไทย ซึ่งประเทศดังกล่าวก็มักจะไม่มี
มาตรฐานการคุ้มครองและเยียวยาทางด้านสิทธิมนุษยชนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจ นอกจากนี้
องค์กรภาครัฐของไทยโดยมากยังคงต้องทำงานภายใต้กรอบอาณาเขตดินแดนของไทย นั่นคือ ไม่สามารถที่จะ
เข้าไปดูแลปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนจากการประกอบธุรกิจในต่างแดนได้โดยตรง ส่งผลให้ธุรกิจไทยทั้ง
เอกชนและรัฐวิสาหกิจจะสามารถที่จะเข้าไปลงทุนโดยพิจารณาเพียงแค่การทำตามกฎหมายของประเทศนั้น ๆ
รวมถึงอาจจะอาศัยช่องโหว่ของความอ่อนแอในกระบวนการเยียวยาของประเทศดังกล่าว เพื่อให้เกิด
ผลประโยชน์ทางด้านธุรกิจก็เป็นได้
รายงานรายงานการติดตามการลงทุนโดยตรงของไทยในต่างประเทศ: กรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชน
และผลกระทบต่อชุมชน จัดทำโดย คณะทำงานติดตามการลงทุนข้ามพรมแดน (Extra-Territorial
Obligations: ETOs Watch) ได้เสร็จสิ้นลงในเดือนกันยายน พ.ศ. 2560 โดยมีกรณีศึกษาในประเทศต่าง ๆ
อันประกอบ ไปด้วย ประเทศกัมพูชา, ลาว, เมียนมา และเวียดนาม (หรือเรียกอีกชื่อว่า CLMV) จำนวนทั้งสิ้น
12 กรณีศึกษา ซึ่ง 12 โครงการที่นำมาใช้ในการศึกษานี้ มีทั้งที่ได้ผ่านการพิจารณา ตรวจสอบ และอยู่ใน
82