Page 53 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2561
P. 53
รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๖๑
ในการปล่อยชั่วคราว อย่างไรก็ตาม กสม. มีข้อสังเกต ๑.๓ รายงานผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ถึงความเหมาะสมของหลักเกณฑ์ดังกล่าวซึ่งปรากฏ ที่ ๑๒๒/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๑ เกี่ยวกับ
อยู่ในระเบียบคณะกรรมการบริหารกองทุนยุติธรรม การลงโทษผู้ต้องขังที่ฝ่าฝืนค�าสั่งฝึกวินัยโดยการใช้ก�าลัง
ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการสนับสนุน กับผู้ต้องขังจนได้รับบาดเจ็บรุนแรง ซึ่ง กสม. เห็นว่า
หลักทรัพย์เป็นหลักประกันในการปล่อยชั่วคราว เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และได้มีข้อเสนอแนะ
พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่ก�าหนดให้คณะกรรมการบริหารกองทุน ต่อกรมราชทัณฑ์ให้พิจารณาเยียวยาโดยให้การรักษา
ยุติธรรม คณะอนุกรรมการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย พยาบาลและชดเชยความเสียหายให้แก่ผู้ร้องอย่างเหมาะสม
สามารถที่จะใช้ดุลพินิจว่าผู้ยื่นค�าขอปล่อยชั่วคราว และควรก�าชับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์
เป็นผู้ที่น่าจะกระท�าความผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ ให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยให้ความ
การก�าหนดเช่นนี้ถือว่าเป็นการวินิจฉัยความผิดของผู้ยื่น เคารพต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และสิทธิของ
ค�าขอรับความช่วยเหลือล่วงหน้าแทนศาล เป็นอุปสรรค ผู้ต้องขัง โดยเฉพาะสิทธิในชีวิตและร่างกายซึ่งเป็นสิทธิ
ต่อการเข้าถึงความช่วยเหลือของประชาชนในการต่อสู้คดี ขั้นพื้นฐานที่มิอาจล่วงละเมิดได้ และลงโทษผู้ฝ่าฝืน
เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ และไม่สอดคล้องกับหลักการ ตามระเบียบหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
สันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ แม้ว่าระเบียบคณะกรรมการ
บริหารกองทุนยุติธรรมว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และ ๒. โทษประหารชีวิต
เงื่อนไขในการสนับสนุนหลักทรัพย์เป็นหลักประกัน เมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๑ กรมราชทัณฑ์ได้ด�าเนินการ
ในการปล่อยชั่วคราว พ.ศ. ๒๕๕๔ จะสิ้นผลบังคับไปแล้ว บังคับโทษตามค�าพิพากษาของศาลด้วยการประหารชีวิต
แต่ตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนยุติธรรมว่าด้วย นักโทษเด็ดขาดชายในคดีฆ่าผู้อื่นอย่างทารุณโหดร้าย
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการสนับสนุนหลักทรัพย์ เพื่อชิงทรัพย์ โดยหวังว่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้ที่คิด
เป็นหลักประกันในการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือ จะก่ออาชญากรรมร้ายแรง หรือกระท�าผิดกฎหมายได้ยั้งคิด
จ�าเลย พ.ศ. ๒๕๕๙ กลับยังคงก�าหนดหลักเกณฑ์ ถึงบทลงโทษนี้ ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๑
๑๖
การพิจารณาในลักษณะเช่นเดียวกันอยู่ ได้มีกลุ่มนักกิจกรรมและอาสาสมัครของแอมเนสตี้
๑๖ จาก มิให้เป็นเยี่ยงอย่าง ราชทัณฑ์ประหาร นักโทษคดีฆ่าโหดชิงทรัพย์ 1 ราย, โดย ไทยรัฐ, ๒๕๖๑. สืบค้นจาก https://www.thairath.co.th/content/1311362
52