Page 36 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2561
P. 36

รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๖๑



           (๑)  การปราบปรามการค้ามนุษย์อย่างต่อเนื่องและน�าตัวผู้กระท�าผิด รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระท�าผิดมาลงโทษ และให้ความส�าคัญกับการน�ามาตรการ
               เชิงป้องกันมาใช้มากขึ้น
           (๒)  การด�าเนินงานตามแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติอย่างจริงจัง และรายงานผลการด�าเนินงาน เพื่อน�าไปปรับปรุงในระยะต่อไป
           (๓)  การสร้างความรู้ความเข้าใจให้เจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย ประกาศ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่แท้จริงและเพิ่มประสิทธิภาพ
               ในการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
           (๔)  การจัดเตรียมล่ามเพื่ออ�านวยความสะดวกให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับความเป็นธรรม รวมทั้งให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์   บทสรุปผู้บริหาร
               ที่เป็นผู้หญิง และเด็กอย่างเหมาะสม


                                   (๑)  การทบทวนความจ�าเป็นในการใช้กฎหมายความมั่นคงในพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อหลีกเลี่ยงและลดผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนในทุกมิติ
                                   (๒)  การก�ากับดูแลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวกับการจับกุมและควบคุมตัวให้เป็นไปตามกฎหมายเพื่อป้องกันการทรมาน รวมถึง
 ÊÔ·¸Ôã¹                              มีการตรวจร่างกายผู้ถูกจับกุมก่อนส่งเข้าสถานที่ควบคุมและบันทึกผลเป็นลายลักษณ์อักษร และการเปิดโอกาสให้ญาติเข้าเยี่ยมได้
 ¡Ãкǹ¡Òà  ¡ÒäŒÒÁ¹ØÉ           (๓)  การเพิ่มมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก เยาวชน และสตรี รวมทั้งดูแลให้การเยียวยา
 ÂØµÔ¸ÃÃÁ                             ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์รุนแรงอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม
                                         (๔)  การลดภาวะทุพโภชนาการของเด็กในพื้นที่โดยสนับสนุนอาหารที่มีคุณค่า และ
 ¡ÒáÃÐ·Ó                  ʶҹ¡Òó     (๕)  การพัฒนากระบวนการยุติธรรมที่ค�านึงถึงความละเอียดอ่อนด้านเพศสภาพของสตรีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
 ·ÃÁÒ¹áÅÐ                 ã¹¾×é¹·Õè¨Ñ§ËÇÑ´
 ¡Òúѧ¤Ñº                ªÒÂá´¹ÀҤ㵌             (๑)  การพิจารณาทบทวนมาตรการตรวจสอบการประกอบกิจการของโรงงานอุตสาหกรรม
 ÊÙÞËÒÂ                                               หรือกิจการอื่นที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันปัญหาการทิ้งกากของเสีย
                                                      หรือสารพิษสู่สิ่งแวดล้อม
                                                   (๒)  การเร่งแก้ไขปัญหาประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้านสุขภาพและความเป็นอยู่จากการประกอบกิจการต่าง ๆ
                                                      รวมถึงดูแลให้ผู้ได้รับผลกระทบได้รับการเยียวยาอย่างเป็นธรรม และ
 àÊÃÕÀҾ㹡Òà                           ÊÔ·¸ÔªØÁª¹    (๓)  การส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เกิด
 áÊ´§¤ÇÒÁ¤Ô´àËç¹                       㹡ÒèѴ¡Òà       ความยั่งยืน รวมทั้งการเร่งพิจารณาออกกฎหมายที่ส่งเสริมการใช้สิทธิชุมชน และการปรับปรุงกฎระเบียบ
 àÊÃÕÀҾ㹡ÒêØÁ¹ØÁ                     ·ÃѾÂÒ¡Ã         ที่เกี่ยวข้องหรือขั้นตอนปฏิบัติต่างๆ ให้เป็นไปตามสิทธิที่ได้รับการรับรองในรัฐธรรมนูญ
 â´ÂʧºáÅÐ                            ¸ÃÃÁªÒµÔ áÅÐ
 »ÃÒȨҡÍÒÇØ¸                          ÊÔè§áÇ´ÅŒÍÁ      (๑)  การเร่งพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระท�าให้บุคคล ข้อเสนอแนะของ กสม. ต่อสถานการณ์สิทธิมนุษยชน ๑๔ ประเด็น ในปี ๒๕๖๑
                                                           สูญหาย พ.ศ. .... ให้มีการประกาศใช้บังคับโดยเร็ว และเพื่อเป็นหลักประกันให้นักปกป้อง
                                                           สิทธิมนุษยชนได้รับการคุ้มครองสิทธิดียิ่งขึ้น
                                                        (๒)  การก�าหนดมาตรการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชนไว้ในแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
                                                           ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๖) และ
                                         ¹Ñ¡»¡»‡Í§
 ÊÔ·¸Ô·Ò§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ                       ÊÔ·¸ÔÁ¹ØÉª¹    (๓)  การแก้ไขระเบียบคณะกรรมการกองทุนยุติธรรมว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข
                                                           ในการขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจ�าเลย พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยยกเลิกข้อความที่ให้อ�านาจ
                                                           คณะอนุกรรมการให้ความช่วยเหลือค�านึงถึงสาเหตุหรือพฤติการณ์ของผู้ยื่นค�าร้อง
                                                           ว่าเป็นผู้ที่น่าเชื่อว่ามิได้กระท�าความผิดตามข้อกล่าวหาหรือไม่
                                                 (๑)  การให้ความรู้และสร้างความเข้าใจแก่นายจ้างและแรงงานต่างด้าวเกี่ยวกับการปฏิบัติตาม
                                                     พระราชก�าหนดการบริหารจัดการการท�างานของแรงงานต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
                                     ÊÔ·¸Ô¢Í§        รวมถึงการให้ความส�าคัญกับการควบคุมดูแลการประกอบกิจการจัดหางานด้วยเพื่อมิให้มีการเอารัดเอาเปรียบแรงงาน
 ÊÔ·¸Ô´ŒÒ¹ÊØ¢ÀÒ¾                  ¼ÙŒÁÕ»˜ÞËÒʶҹÐ
                                     áÅÐÊÔ·¸Ô        และการแก้ไขปัญหาการจดทะเบียนการเกิดบุตรของแรงงานข้ามชาติที่เกิดในประเทศไทย
                                                     เพื่อให้เด็กที่เป็นบุตรแรงงานข้ามชาติกลุ่มนี้ได้รับการจดทะเบียนเกิดอย่างทั่วถึง
                                                 (๒)  การมีมาตรการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนและเอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ประกอบการขอมีสถานะ/สัญชาติ
                                                     แก่ผู้มีสิทธิยื่นค�าขอตามนโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวข้องในภาษาที่ผู้มีสิทธิยื่นค�าขอสามารถเข้าใจได้ รวมถึง
                                                     การพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาผู้สูงอายุกลุ่มชาติพันธุ์ที่อยู่อาศัยในประเทศไทยมาเป็นเวลานาน
 ¸ØÃ¡Ô¨¡Ñº              ÊÔ·¸Ô¢Í§¤¹¾Ô¡Òà              แต่ไม่อาจขอสถานะ/สัญชาติได้เนื่องจากตกส�ารวจการจัดท�าทะเบียนประวัติของกลุ่มชาติพันธุ์ และ
 ÊÔ·¸ÔÁ¹ØÉª¹                                (๓)  การสร้างความร่วมมือกับรัฐบาลประเทศเมียนมา UNHCR และองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ในการให้ข้อมูลและ
                                                เตรียมความพร้อมแก่ผู้หนีภัยการสู้รบชาวเมียนมาในพื้นที่พักพิงชั่วคราวที่สมัครใจเดินทางกลับอย่างต่อเนื่อง โดยค�านึง
                                                ถึงสถานการณ์ความปลอดภัยในประเทศเมียนมาเป็นส�าคัญ และควรเร่งรัดการพิจารณากลไกคัดกรองผู้เข้าเมือง
 ÊÔ·¸Ôà´ç¡  ÊÔ·¸Ô¼ÙŒÊÙ§ÍÒÂØ                     ผิดกฎหมายเพื่อจ�าแนกผู้แสวงหาที่พักพิงออกจากผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายอื่น และพิจารณาก�าหนดนโยบายหรือแนวทาง
                                                ในการปฏิบัติต่อคนกลุ่มนี้อย่างเหมาะสมที่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงมาตรการทางเลือกอื่น
                                                แทนการควบคุมตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้แสวงหาที่พักพิงที่เป็นเด็ก

                          (๑)  การสร้างความตระหนักรู้เรื่องสิทธิของคนพิการเพื่อส่งเสริมทัศนคติเชิงบวกและการปฏิบัติที่เคารพสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนพิการ และ
                          (๒)  การจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอแก่การศึกษาส�าหรับนักเรียนพิการในโรงเรียนจัดการเรียนร่วมให้สอดคล้องกับความต้องการจ�าเป็น
                             ของนักเรียนพิการแต่ละบุคคล รวมถึงการจัดสิ่งอ�านวยความสะดวกเพื่อให้คนพิการสามารถด�ารงชีวิตโดยเป็นส่วนหนึ่งของสังคมได้
           (๑)  การรณรงค์ให้ประชาชนเห็นความส�าคัญของการออม โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานนอกระบบกว่า ๒๐ ล้านคน รวมถึงการพิจารณาระบบการออมภาคบังคับเพื่อให้ประชาชนทุกคน
               มีบ�าเหน็จบ�านาญหลังพ้นวัยเกษียณ
           (๒)  การปรับปรุงกฎหมายคุ้มครองแรงงานเพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะการท�างานของผู้สูงอายุเพื่อคุ้มครองสิทธิด้านการท�างานของผู้สูงอายุ รวมทั้งกฎหมายเกี่ยวกับประกันสังคม
               และกองทุนการออมต่าง ๆ ให้รองรับการท�างานของผู้สูงอายุด้วย และ
           (๓)  การด�าเนินการเพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับสิทธิในด้านอื่น ๆ ตามที่ระบุในพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม อย่างทั่วถึง อาทิ บริการด้านสาธารณสุข การฝึก/
               ประกอบอาชีพที่เหมาะสม การได้รับความคุ้มครองจากการถูกทอดทิ้ง โดยให้ความส�าคัญกับผู้สูงอายุที่มีอุปสรรคในการเข้าถึงสิทธิต่าง ๆ หรือมีความเสี่ยงที่จะถูกละเมิดสิทธิ
               เช่น ผู้สูงอายุที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ผู้สูงอายุที่อยู่ล�าพัง และผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง เป็นต้น
                                                                                                               35
   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41