Page 21 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2561
P. 21
รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๖๑
และการกระท�าให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. .... ตามมติ
คณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ
(สนช.) เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา ๗๗
และได้สรุปผลการรับฟังความเห็นให้ สนช. ทราบ ต่อมา
เมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๑ สนช. ได้พิจารณา
และมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
และแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาต่อไป
นอกจากนี้ รัฐบาลได้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดการ
เรื่องราวร้องทุกข์กรณีถูกกระท�าทรมานและถูกบังคับ
ให้สูญหายเพื่อรับเรื่องร้องเรียน ตรวจสอบ เยียวยา
และด�าเนินมาตรการป้องกันการทรมานและบังคับ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เสรีภาพ
สูญหาย รวมทั้งได้ตรวจสอบกรณีที่มีการร้องเรียน ในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ
ต่อสหประชาชาติจ�านวน ๘๒ รายเพื่อหาข้อเท็จจริง ในภาพรวมพบว่า ในการดูแลและรักษาความสงบ
และช่วยให้กรณีร้องเรียนหลายเรื่องได้รับการคลี่คลาย เรียบร้อยของบ้านเมือง รัฐได้ใช้กลไกตามปกติมากขึ้น
กล่าวคือ เป็นการด�าเนินการของเจ้าพนักงาน
จากการประเมินสถานการณ์ด้านนี้ ยังมีประเด็นที่เป็น ตามกฎหมายมากกว่าเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมน�ายุทธวิธี
ข้อห่วงกังวล ได้แก่ การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ ป้องปราม ระงับ ยับยั้งความรุนแรงมาปรับใช้
ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ ซึ่งมีบางฝ่ายเห็นว่า ในการเผชิญเหตุต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ สนช. ได้ให้
ควรถอดหลักการส�าคัญบางประการตามอนุสัญญา ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
CAT โดยเฉพาะหลักการไม่สามารถผ่อนปรนได้ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ....
และหลักการห้ามผลักดันกลับไปเผชิญอันตรายออกจาก ซึ่งท�าให้ก�าหนดการจัดการเลือกตั้งมีกรอบเวลา
ร่างพระราชบัญญัติฯ นอกจากนี้ กสม. ยังคงได้รับ ที่ชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตาม กสม. ยังมีข้อห่วงกังวล
เรื่องร้องเรียนที่กล่าวอ้างว่ามีการกระท�าท�าร้าย/ทรมาน ในประเด็นที่เกี่ยวกับการบังคับใช้ประกาศ/ค�าสั่ง คสช.
โดยเจ้าหน้าที่รัฐในปี ๒๕๖๑ จ�านวน ๒๐ ค�าร้อง จึงมี หรือกฎหมายที่ออกตามมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญ
ข้อเสนอแนะ ๓ ประการ คือ (๑) ในการพิจารณา แห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗
ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ ที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิมนุษยชน สิทธิทางการเมือง
ควรค�านึงถึงความสอดคล้องกับสาระส�าคัญ สิทธิชุมชน เสรีภาพสื่อ รวมถึงสิทธิเสรีภาพในการแสดง
ของอนุสัญญา CAT (๒) ควรมีการดูแลและตรวจสอบ ความคิดเห็น การชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ
การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐในการจับกุมและควบคุม ของภาคประชาสังคม องค์กรชุมชน ภาควิชาการต่าง ๆ
ตัวบุคคล และจัดให้มีคู่มือการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง ที่มีการเคลื่อนไหวหรือชุมนุมเพื่อแสดงออกเกี่ยวกับ
ต่อสิทธิมนุษยชนโดยภาพรวม รวมทั้งมีการติดตาม เหตุการณ์ หรือการด�าเนินการของรัฐที่กระทบ
และประเมินผลการด�าเนินการเป็นระยะ และ (๓) ควรมี ต่อคุณภาพชีวิตและสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ
การสร้างความรู้ความเข้าใจแก่เจ้าหน้าที่รัฐถึงความ นอกจากนั้น ยังพบการใช้ดุลพินิจตามพระราชบัญญัติ
ส�าคัญในการป้องกันและปราบปรามการทรมาน การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๕๘ ของเจ้าพนักงาน
และการกระท�าให้บุคคลสูญหายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ ตามกฎหมายซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้เสรีภาพ
มีการเปลี่ยนแปลงทัศนคติ รวมทั้งควรมีการจัดท�าหลักสูตร ในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ รวมถึงมีการจับกุม
การเรียนรู้ในเรื่องดังกล่าว กลุ่มที่แสดงความคิดเห็นต่างจากรัฐในความผิด
ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระท�าความผิดเกี่ยวกับ
คอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
20