Page 126 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2561
P. 126
รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๖๑
จากรายงานการส�ารวจประชากรสูงอายุประเทศไทย
ของส�านักงานสถิติแห่งชาติในปี ๒๕๖๐ พบว่า ประเทศไทย
มีผู้สูงอายุ ๑๑.๓ ล้านคน แบ่งเป็นผู้สูงอายุวัยต้น (อายุ ๖๐-๖๙ ปี)
ร้อยละ ๕๗.๔ ผู้สูงอายุวัยกลาง (อายุ ๗๐-๗๙ ปี) ร้อยละ
๒๙ และผู้สูงอายุวัยปลาย (อายุ ๘๐ ปีขึ้นไป) ร้อยละ
๑๓.๖ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ (ร้อยละ ๗๖.๒) จบการศึกษา
ระดับประถมศึกษาหรือต�่ากว่า โดยผู้สูงอายุที่เป็นชาย
จบการศึกษามากกว่าผู้สูงอายุที่เป็นหญิง ผู้สูงอายุประมาณ
๑ ใน ๓ (ร้อยละ ๓๕.๑) ยังคงท�างานอยู่ ส่วนใหญ่เป็น
ผู้สูงอายุวัยต้น (ร้อยละ ๕๐.๕) และอัตราส่วนของผู้สูงอายุ
ที่ท�างานจะลดลงตามช่วงวัย แหล่งรายได้หลักของผู้สูงอายุ
๓ อันดับแรกคือ รายได้จากบุตร (ร้อยละ ๓๔.๗)
จากการท�างาน (ร้อยละ ๓๑) และจากเบี้ยยังชีพ (ร้อยละ ๒๐) การรับรองในกติกา ICCPR และ ICESCR เช่นเดียวกับ
แหล่งรายได้อื่น ๆ ได้แก่ บ�าเหน็จ/บ�านาญ (ร้อยละ ๕.๙) ประชากรกลุ่มอื่นด้วย
จากคู่สมรส (ร้อยละ ๔.๖๐) และดอกเบี้ยการออม (ร้อยละ
๒.๓) นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้สูงอายุที่อยู่ตามล�าพังมีแนวโน้ม มาตรา ๑๑ พระราชบัญญัติผู้สูงอายุแห่งชาติได้มีบทบัญญัติ บทที่ ๔
เพิ่มสูงขึ้น โดยในปี ๒๕๖๐ มีผู้สูงอายุที่ต้องอยู่ตามล�าพัง เพื่อคุ้มครอง ส่งเสริม และสนับสนุนให้ผู้สูงอายุได้รับสิทธิ
คนเดียวร้อยละ ๑๐.๘ เพิ่มขึ้นจากปี ๒๕๔๕ ที่มีผู้สูงอายุอยู่ ในเชิงบวกหลายประการ อาทิ การบริการทางการแพทย์
ตามล�าพังคนเดียวร้อยละ ๖.๓ ส�าหรับสภาวะด้านสุขภาพ และสาธารณสุขที่จัดไว้โดยให้ความสะดวกและรวดเร็วแก่
๒๒๒
จากการให้ผู้สูงอายุประเมินตนเอง ส่วนใหญ่ประเมินว่า ผู้สูงอายุเป็นกรณีพิเศษ การประกอบอาชีพหรือฝึกอาชีพ
ตนมีสุขภาพปานกลางถึงดีและดีมาก (ร้อยละ ๘๔.๙) ที่เหมาะสม การช่วยเหลือผู้สูงอายุซึ่งได้รับอันตรายจาก
สอดคล้องกับรายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทยปี ๒๕๖๐ การถูกทารุณกรรมหรือถูกแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ
ของมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.) ด้วยกฎหมายหรือการถูกทอดทิ้ง การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพ
ที่ระบุว่าร้อยละ ๙๕ ของผู้สูงอายุยังสามารถท�ากิจวัตร เป็นรายเดือนอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม การสงเคราะห์ในการจัดการ
พื้นฐานประจ�าวันได้ ๒๒๓ ศพตามประเพณี เป็นต้น ส่วนแผนผู้สูงอายุแห่งชาติ ฉบับที่ ๒ การประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของบุคคล ๕ กลุ่ม
ได้ก�าหนดยุทธศาสตร์การด�าเนินงานผู้สูงอายุไว้ ๕ ด้าน
ในการด�าเนินการของรัฐเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตและ ได้แก่ ๑) การเตรียมความพร้อมของประชากรเพื่อวัยสูงอายุ
การเข้าถึงสิทธิต่าง ๆ ของผู้สูงอายุ นอกจากจะเป็นไป อย่างมีคุณภาพ ๒) การส่งเสริมและพัฒนาผู้สูงอายุ ๓) ระบบ
ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย คุ้มครองทางสังคมส�าหรับผู้สูงอายุ ๔) การบริหารจัดการ
พุทธศักราช ๒๕๖๐ ในหมวดที่ว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพ เพื่อพัฒนางานด้านผู้สูงอายุอย่างบูรณาการระดับชาติ
ของประชาชน หน้าที่ของรัฐ และแนวนโยบายแห่งรัฐ และการพัฒนาบุคลากรด้านผู้สูงอายุ และ ๕) การประมวล
แล้ว ยังเป็นไปตามพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ พัฒนา และเผยแพร่องค์ความรู้ด้านผู้สูงอายุ และ
และที่แก้ไขเพิ่มเติม และแผนผู้สูงอายุแห่งชาติ ฉบับที่ ๒ การติดตามประเมินผลการด�าเนินการตามแผนผู้สูงอายุ
๒๒๔
พ.ศ. ๒๕๔๕-๒๕๖๔ ซึ่งเป็นแผนระยะ ๒๐ ปี และได้มี แห่งชาติ ทั้งนี้ ประเด็นสิทธิของผู้สูงอายุส่วนใหญ่เป็นสิทธิ
การปรับปรุงครั้งที่ ๑ เมื่อปี ๒๕๕๒ นอกจากนี้ รัฐยังต้อง ตามกติกา ICESCR เช่น สิทธิที่เกี่ยวกับการท�างาน สิทธิ
ส่งเสริมและคุ้มครองให้ผู้สูงอายุได้รับสิทธิต่าง ๆ ที่ได้รับ ด้านสุขภาพ สิทธิในการมีมาตรฐานการครองชีพที่เพียงพอ
๒๒๒ จาก รายงานการส�ารวจประชากรสูงอายุในประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๖๐, ส�านักงานสถิติแห่งชาติ. สืบค้นจาก http://www.nso.go.th/sites/2014/Pages/ส�ารวจ/ด้านสังคม/
ประชากรและสังคม/ประชากรสูงอายุ.aspx
๒๒๓ จาก รายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทยปี ๒๕๖๐ (น. ๔๔), โดย มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย, ๒๕๖๑. สืบค้นจาก http://www.dop.go.th/th/know/2/147
๒๒๔ พระราชบัญญัติผู้สูงอายุ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓ และ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐.
125