Page 115 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2561
P. 115
รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๖๑
ในล�าดับต้น ๆ ยังไม่พบว่ารัฐมีมาตรการคุ้มครองแรงงาน ประกอบการพิจารณาจัดท�าแผน NAP โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
เป็นการเฉพาะ นอกจากนี้ ในส่วนของการเข้าเป็นภาคี การจัดท�าการประเมินข้อมูลพื้นฐานระดับชาติว่าด้วยเรื่อง
อนุสัญญา ILO ฉบับที่ ๘๗ ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคม ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (NBA) เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ระบุถึง
และการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัว และฉบับที่ ๙๘ การวิเคราะห์ช่องว่างระหว่างกลไกคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
ว่าด้วยสิทธิในการรวมตัวและการร่วมเจรจาต่อรอง นั้น ในประเทศที่มีอยู่กับข้อก�าหนดในหลักการ UNGPs
ยังไม่มีความก้าวหน้าเท่าที่ควรเนื่องจากรัฐใช้ระยะเวลา ก่อนที่จะจัดท�าร่างแผนฯ
อย่างยาวนานในการพิจารณาด�าเนินการเพื่อเข้าเป็น
ภาคีอนุสัญญาดังกล่าว ๒. กรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนข้ามพรมแดน
๑. รัฐควรก�าหนดกลไกในการก�ากับดูแลการลงทุน
๕. กรณีความก้าวหน้าในการด�เนินการของภาคธุรกิจ ในต่างประเทศของผู้ลงทุนสัญชาติไทยที่สอดคล้องกับ
กสม. เห็นว่า รัฐได้ด�าเนินกิจกรรม/โครงการต่าง ๆ ร่วมกับ หลักการ UNGPs ซึ่ง กสม. ได้เคยเสนอแนะไปยัง ครม.
ภาคธุรกิจเพื่อให้การด�าเนินธุรกิจเคารพสิทธิมนุษยชน เมื่อปี ๒๕๕๘ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาแล้ว
โดยก�าหนดเป็นประกาศ/ระเบียบต่าง ๆ เพื่อให้ภาคธุรกิจ เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าวในหลักการดังปรากฏข้างต้น
ต้องด�าเนินการและรายงานเกี่ยวกับประเด็นสิทธิมนุษยชน
จึงถือเป็นความก้าวหน้าในการด�าเนินการของรัฐ ๒. ในกรณีที่เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนขึ้น รัฐรวมถึง
อย่างไรก็ดี มาตรการดังกล่าวมีผลกับบริษัทขนาดใหญ่ รัฐวิสาหกิจควรพิจารณารูปแบบการเยียวยาที่มีความหลากหลาย
และบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมัก นอกเหนือจากการเยียวยาด้วยตัวเงิน อาทิ การกลับคืน
ไม่รวมถึงธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สู่สภาพเดิม (restitution) การจ่ายค่าสินไหมทดแทน
(compensation) การฟื้นฟู (rehabilitation) การท�าให้
ข้อเสนอแนะ พอใจ (satisfaction) และการประกันว่าจะไม่เกิดการ
จากการประเมินสถานการณ์และปัญหาอุปสรรคข้างต้น ละเมิดซ�้า (guarantee of non-repetition) นอกจากนี้
กสม. มีข้อเสนอแนะดังนี้ รัฐยังควรสนับสนุนให้มีกลไกอื่นที่มิใช่กลไกตามกระบวนการ
ยุติธรรม (non-judicial) เพื่อเป็นกลไกเสริมหรือสนับสนุน
๑. การจัดท�แผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจ การเยียวยาให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนด้วย
กับสิทธิมนุษยชน (NAP) โดยกลไกดังกล่าวควรมีลักษณะตามที่ก�าหนดใน UNGPs
กระทรวงยุติธรรมโดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวคือ มีความชอบธรรม (legitimate) เข้าถึงได้
ควรน�าข้อเสนอแนะของ กสม. และคณะท�างานด้าน (accessible) คาดได้ล่วงหน้า (predictable)
สิทธิมนุษยชนกับบรรษัทข้ามชาติและองค์กรธุรกิจอื่น ๆ มีความเป็นธรรม (equitable) โปร่งใส (transparent) และ
ของสหประชาชาติ ตลอดจนภาคประชาสังคม ไป สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน (rights-compatible)
114