Page 83 - ข้อเสนอแนะการเข้าถึงความยุติธรรมของผู้หญิงมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้
P. 83
ในประเทศสหรัฐอเมริกา
- ในทุกๆ นาที มีบุคคลจ�านวน ๒๐ คน ที่ตกเป็นเหยื่อการใช้ความรุนแรงจากคนที่ใกล้ชิด
- มีผู้หญิงที่ถูกท�าร้ายโดยสามีในทุกๆ ๙ วินาที
- มีผู้หญิง ทุกๆ ๑ ใน ๔ คนจะเคยถูกท�าร้ายโดยคนใกล้ชิด (สามี) ในช่วงชีวิตของเธอ
- จ�านวนผู้หญิงที่ถูกท�าร้ายในครอบครัวมีมากกว่าจ�านวนผู้ประสบอุบัติเหตุ จ�านวนการลักขโมย แลจ�านวน
การถูกข่มขืนรวมกัน
- การท�าร้ายผู้หญิงเกิดขึ้นในทุกเชื้อชาติ ทุกชนชั้น ทุกศาสนา ทุกอาชีพ และทุกฐานะการศึกษา
- มีผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ราว ๒๕% - ๔๕% ถูกท�าร้ายในขณะที่ตั้งครรภ์อยู่
- ผู้หญิงทุกๆ ๑ ใน ๖ คน เคยมีประสบการณ์ถูกข่มขืน หรือพยายามข่มขืน
ในประเทศไทย
- จากการส�ารวจพบว่า ความรุนแรงในครอบครัวมีจ�านวนเพิ่มสูงขึ้น โดยในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ พบว่า มีครัวเรือน
ที่มีการใช้ความรุนแรงสูงถึงร้อยละ ๓๐.๘
- อัตราการหย่าร้างเพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ ๑๒.๘ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ เป็นร้อยละ ๓๓ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๕
- กระทรวงศึกษาธิการเผยปัญหาเด็กและสตรีในปัจจุบัน ถูกกระท�ารุนแรงอยู่ในเกณฑ์น่าวิตก สถิติล่าสุด
ใน ปี พ.ศ. ๒๕๕๖ พบรวม ๓๑,๙๖๖ ราย เป็นเด็ก ๑๙,๒๒๙ ราย สตรี ๑๒,๖๓๘ ราย เฉลี่ยวันละ ๘๗ ราย
ชี้ปัญหาอันดับ ๑ ที่พบในเด็ก ๑๐-๑๕ ปี คือการล่วงละเมิดทางเพศ ส่วนในสตรีคือการถูกท�าร้ายร่างกาย
- ความรุนแรงที่เกิดกับผู้หญิง จากสถิติมักเกิดจากคนในครอบครัว หรือเป็นบุคคลที่เรียกว่าสามี ตั้งแต่
ปี พ.ศ. ๒๕๕๐
- พ.ศ. ๒๕๕๖ พบไทยมีผู้หญิงและเด็กถูกกระท�าความรุนแรงมากขึ้นสูงถึง 87 รายต่อวัน ในจ�านวนนี้เป็นหญิง
ร้อยละ ๔๐ และเด็กร้อยละ ๖๐ ซึ่งการกระท�าความรุนแรงต่อผู้หญิงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากพฤติกรรม
การกระท�าความรุนแรงของผู้ชาย ผู้หญิงที่ถูกกระท�ายังอายที่จะแสดงให้สังคมรับรู้ท�าให้ไม่สามารถแก้
ปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุได้
ในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้
เมื่อพิจารณาความรุนแรงใน ๓ จังหวัด ชายแดนภาคใต้ คือ จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส พบว่า
จากผลการส�ารวจข้อมูลสถานการณ์ความรุนแรงในครอบครัวในจังหวัดยะลามีมากที่สุด (ดูรายละเอียดในภาคผนวก ก)
กลับสู่ค�าถาม ท�าไมความรุนแรงในครอบครัวจึงด�ารงอยู่ในสังคมมุสลิม เหตุผลส�าคัญที่ชายมุสลิมจ�านวนมาก
มักใช้อ้างเพื่อเป็นเหตุผลรองรับในการตบตีภรรยา คือ การยกโองการในคัมภีร์อัล-กุรอ่าน (ซึ่งมวลมุสลิมถือว่าเป็น
วัจนะของพระผู้เป็นเจ้าซึ่งเป็นทั้งแนวทางและกฎหมายในเรื่องราวต่างๆ ของวิถีชีวิตมนุษย์) โดยยกมาเพียงโองการ
เดียวที่ว่า “บรรดาชายนั้น คือผู้ที่ท�าหน้าที่ปกครองเลี้ยงดูบรรดาหญิง เนื่องด้วยการที่อัลลอฮ์ ได้ทรงให้บางคนของ
พวกเขาเหนือกว่าอีกบางคน และด้วยการที่พวกเขาได้จ่ายไปจากทรัพย์ของพวกเขา บรรดากุลสตรีนั้นคือ ผู้จงรักภักดี
ผู้รักษาในทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ลับหลังสามี เนื่องด้วยสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงรักษาไว้ และบรรดาหญิงที่พวกเจ้าหวั่นเกรง
ในความดื้อดึงของนางนั้น ก็จงกล่าวตักเตือนนางและทอดทิ้งนางไว้แต่ล�าพังในที่นอน และจงเฆี่ยนนาง แต่ถ้านาง
เชื่อฟังพวกเจ้าแล้ว ก็จงอย่าหาทางเอาเรื่องแก่นาง แท้จริงอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงสูงส่งผู้ทรงเกรียงไกร” (อัล-กุรอ่าน ๔: ๓๔)
72 ข้อเสนอแนะ การเข้าถึงความยุติธรรมของผู้หญิงมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้