Page 80 - ข้อเสนอแนะการเข้าถึงความยุติธรรมของผู้หญิงมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้
P. 80

“และเมื่อทารกหญิงที่ถูกฝังทั้งเป็นถูกถามด้วยความผิดอันใดเขาจึงถูกฆ่า” (อัล-กุรอ่าน ๘๑:๘-๙)

                      อิสลามมองว่าผู้ชายและผู้หญิงต่างมีเกียรติศักดิ์ศรีที่เท่าเทียมกัน ครั้งหนึ่ง อุมม์ สะละมะฮ์ ภรรยาของท่าน

               นบีมุฮัมหมัด (ซ.ล.) ได้ถามท่านนบีว่า “ท�าไมอัล-กุรอ่าน พูดถึงแต่ผู้ชาย ไม่พูดถึงผู้หญิงบ้างเลย?” จนกระทั่งวันหนึ่ง
               พระผู้เป็นเจ้าจึงได้ลงโองการมายังท่านนบีโดยกล่าวถึงความเท่าเทียมกันระหว่างผู้ชายและผู้หญิงว่า


                      “แท้จริงบรรดาผู้นอบน้อมชายและหญิง บรรดาผู้ศรัทธาชายและหญิง บรรดาผู้ภักดีชายและหญิง บรรดา
               ผู้สัตย์จริงชายและหญิง บรรดาผู้อดทนชายและหญิง บรรดาผู้ถ่อมตัวชายและหญิง บรรดาผู้บริจาคทานชาย

               และหญิง บรรดาผู้ถือศีลอดชายและหญิง บรรดาผู้รักษาอวัยวะเพศของพวกเขาที่เป็นชายและหญิง บรรดา
               ผู้ร�าลึกถึงอัลลอฮฺ อย่างมากที่เป็นชายและหญิงนั้น อัลลอฮฺได้ทรงเตรียมไว้ส�าหรับพวกเขาแล้ว ซึ่งการอภัยโทษ
               และรางวัลอันใหญ่หลวง” (อัล-กุรอ่าน ๓๓: ๓๕)


                      นอกจากนั้น อัล-กุรอ่าน ยังได้กล่าวถึงความเท่าเทียมของผู้ชายและผู้หญิงไว้อีกในหลายๆ โองการ
               (อายะฮ์) ได้แก่


                      “ผู้ใดปฏิบัติความดีไม่ว่าจะเป็นเพศชายหรือเพศหญิงก็ตาม โดยที่เขาเป็นผู้ศรัทธา ดังนั้น เราจะให้
               เขาด�ารงชีวิตที่ดี และแน่นอนเราจะตอบแทนพวกเขาซึ่งรางวัลของพวกเขาที่ดียิ่งกว่าที่พวกเขาได้เคยท�าไว้”

               (อัล-กุรอ่าน ๑๖: ๖๗)

                      “ผู้ใดที่กระท�าความชั่ว เขาจะไม่ได้รับการตอบแทน เว้นแต่เยี่ยงเช่นนั้น และผู้ใดกระท�าความดีจากเพศชาย

               หรือเพศหญิงก็ตาม และเขาเป็นผู้ศรัทธาด้วย ชนเหล่านั้นแหละพวกเขาจะได้เข้าสวนสวรรค์ จะได้รับปัจจัยยังชีพ
               ในนั้นโดยปราศจากการค�านวณ” (อัล-กุรอ่าน ๔๐: ๔๐)


                      และมีรายงานว่า นบี (ซ.ล.) กล่าวไว้ว่า “มนุษย์ทุกคนต่างมีความเท่าเทียมกัน (ท่านเปรียบเทียบความเท่า
               เทียมดังกล่าวดั่งก้านของหวี) คนอาหรับไม่ได้ดีกว่าคนที่ไม่ใช่อาหรับ คนผิวขาวไม่ได้ดีกว่าคนผิวด�า และผู้ชายไม่ได้

                                                       ๔
               ดีกว่าผู้หญิง ผู้ที่เป็นที่ชื่นชอบ ณ ที่อัลลอฮ์ (ซ.บ.)  นั้น ได้แก่ผู้ที่เกรงกลัวพระองค์และประกอบในคุณความดี”
                      จะเห็นได้ว่า ในทัศนะอิสลามนั้นมีการปกป้องสิทธิสตรีในด้านต่างๆ ได้แก่

                      (๑) สิทธิการมีอิสระที่จะเป็นเจ้าของทรัพย์สิน
                      สตรีมุสลิมมีสิทธิ์ที่จะจัดการเงินทองและทรัพย์สินของตัวเองได้อย่างเป็นอิสระ มีสิทธิที่จะซื้อ ขาย กู้ยืม
               หรือท�าสัญญาต่างๆ เธอสามารถบริจาคเงิน หรือท�าธุรกิจใดๆ ที่ถูกต้องตามหลักการศาสนา สิทธิดังกล่าวไม่สามารถ
                                                                                             ๕
               แปรเปลี่ยนไปได้ ไม่ว่าเธอจะมีสถานภาพเป็นคนโสดหรือแต่งงาน เธอมีสิทธิที่จะบริจาคซะกาต  และมีส่วนร่วมใน
               กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ มากมาย


                      (๒) สิทธิที่จะเลือกคู่ครองและบอกเลิก
                      อิสลามมองว่าสถาบันการแต่งงานเป็นที่สถาบันแห่งคุณความดีและมีความงดงาม การแต่งงานเป็นการยินยอม
               พร้อมใจของคนสองคน เพื่อหลอมรวมความสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณและอารมณ์ที่สมบูรณ์ในการมีชีวิตอยู่ในสังคม

               อัล-กุรอ่าน ระบุไว้ว่า

               ๔   ซ.บ. อักษรย่อส�าหรับค�าสดุดีที่ใช้กล่าวหรือเขียนหลังการกล่าวพระนามของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) มีความหมายว่า “มหาบริสุทธิ์และความสูงส่งยิ่งแด่พระองค์” ย่อมาจาก “ซุบฮานะฮูวะตะอาลา”
               ๕   ซะกาต เป็นบทบัญญัติของศาสนาอิสลามที่ก�าหนดให้มุสลิมที่มีทรัพย์สินถึงพิกัดอัตราที่ศาสนาก�าหนดไว้ในวันครบรอบปีจะต้องจ่ายทรัพย์สินนี้ออกไปจ�านวนหนึ่งในอัตราที่ศาสนา
                 ก�าหนดไว้ให้แก่ผู้ที่มีสิทธิได้รับ


                                                  ข้อเสนอแนะ การเข้าถึงความยุติธรรมของผู้หญิงมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้  69
   75   76   77   78   79   80   81   82   83   84   85