Page 57 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 57

33


                       - นโยบายยุบ ควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก อาศัยตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ วําด๎วยการจัดตั้ง

               รวม หรือเลิกสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2550 และพระราชบัญญัติการศึกษาแหํงชาติ พ.ศ. 2542 ซึ่งการ
               ด าเนินการดังกลําวสํงผลกระทบให๎ความสุขของเด็กลดน๎อยลง เด็กเล็กต๎องย๎ายโรงเรียนและปรับพฤติกรรม

               การด ารงชีวิต ต๎องเดินทางไกลขึ้น ผู๎ปกครองต๎องมีคําใช๎จํายและภาระเพิ่มขึ้นจากการเดินทางสํงบุตรหลาน

               หรือจ๎างรถยนต๑สํงบุตรหลานไปโรงเรียน ผลของการใช๎ระเบียบดังกลําวไมํถูกต๎องและไมํสอดคล๎องกับ
               รัฐธรรมนูญแหํงราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 78 (1) (4) (5) และ มาตรา 80 (1) (3) และ (4) และ

               อนุสัญญาวําด๎วยสิทธิเด็กซึ่งเป็นพันธกรณีระหวํางประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคี เป็นการกระทบสิทธิเด็ก

               ในทางการศึกษา อันเป็นการริดรอนสิทธิเด็กเป็นการทั่วไป รวมทั้งบุคคลในครอบครัวเด็กด๎วย
                       คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหํงชาติจึงเสนอมาตรการการแก๎ไขปัญหาตํอหนํวยงานที่เกี่ยวข๎องดังนี้

                       1) คณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงศึกษาธิการ และหนํวยงานที่เกี่ยวข๎องกับการจัดการศึกษา ต๎องจัด
               การศึกษาให๎เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแหํงราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 49 “บุคคลยํอม

               มีสิทธิเสมอกันในการรับการศึกษาไมํน๎อยกวําสิบสองปีที่รัฐจะต๎องจัดให๎อยํางทั่วถึงและมีคุณภาพ โดยไมํเก็บ
               คําใช๎จําย....” และให๎สอดคล๎องกับอนุสัญญาวําด๎วยสิทธิเด็ก ข๎อ 3 ข๎อ 28 ได๎รับการรับรองโดยรัฐธรรมนูญแหํง

               ราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 มาตรา 4 โดยการกระท าของหนํวยงานรัฐจะต๎องค านึงถึง

               ประโยชน๑สูงสุดเป็นล าดับแรก เด็กต๎องได๎รับการศึกษาบนพื้นฐานของโอกาสที่เทําเทียมกันและมีคุณภาพ
               โดยเฉพาะอยํางยิ่งการศึกษาภาคบังคับที่ไมํเสียคําใช๎จํายซึ่งต๎องไมํมีเด็กที่เข๎าไมํถึงโอกาสการศึกษา

                       2) กระทรวงศึกษาธิการควรปรับยุทธศาสตร๑การบริหารงบประมาณในการบริหารการศึกษาส าหรับ

               โรงเรียนขนาดเล็ก โดยค านึงถึงหลักการดังกลําวในข๎อ 1) จึงควรปรับลดงบประมาณประจ าปีที่ไมํจ าเป็น และ
               ไมํคุ๎มการลงทุน  นอกจากนี้ให๎เน๎นเปูาหมายพัฒนาครูบุคลากรทางการศึกษา หลักสูตร วิธีการสอน รวมทั้ง

               ระดมบุคลากรที่มีศักยภาพเชํนปราชญ๑ชาวบ๎าน เพื่อเข๎ามาสนับสนุนการเรียนการสอนในโรงเรียน
                       3) ควรพิจารณายกเลิกหรือปรับปรุงระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ วําด๎วยการจัดตั้ง รวม หรือเลิก

               สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2550 ในสํวนที่เกี่ยวกับการรวม หรือเลิกสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
                       4) คณะรัฐมนตรีโดยกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย องค๑กรปกครองสํวนท๎องถิ่น ควรให๎

               ความส าคัญกับนโยบายการกระจายอ านาจการจัดการศึกษา ซึ่งก าหนดไว๎ในพระราชบัญญัติการศึกษาแหํงชาติ

               พ.ศ. 2542 และพระราชบัญญัติก าหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอ านาจให๎แกํองค๑กรปกครองสํวนท๎องถิ่น
               พ.ศ. 2542

                       5) การจัดการศึกษาต๎องมีนโยบายเกี่ยวกับการจัดการศึกษาที่ตระหนังถึงการมีสํวนรํวมของบิดา

               มารดา ผู๎ปกครอง ชุมชม และภาคประชาสังคม ภายใต๎แนวคิดกระบวนการเรียนรู๎ที่หลากหลาย ผําน
               ความสัมพันธ๑ครอบครัว ชุมชน สังคม วัฒนธรรมในท๎องถิ่นและสิ่งแวดล๎อม เพื่อเด็กได๎พัฒนาในมิติที่รอบด๎าน

               ทั้งนี้ขอทราบผลการด าเนินงานภายใน 60 วันนับแตํได๎รับรายงานฉบับนี้


                       18) ค าร้องที่ 344/2553: กรณีผู้อ านวยการโรงเรียนของรัฐแห่งหนึ่ง ไม่อนุญาตให้นักเรียนที่นับ
               ถือศาสนาอิสลามแต่งกายเครื่องแบบตามความเชื่อทางศาสนา
   52   53   54   55   56   57   58   59   60   61   62