Page 55 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 55

31


                       “การปฏิบัติตํอเด็กไมํวํากรณีใด ให๎ค านึงถึงประโยชน๑สูงสุดของเด็กเป็นส าคัญและไมํให๎มี การเลือก

               ปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม
                       การกระท าใดเป็นไปเพื่อประโยชน๑สูงสุดของเด็ก หรือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไมํเป็นธรรมตํอเด็ก

               หรือไมํ ให๎พิจารณาตามแนวทางที่ก าหนดในกฎกระทรวง”

                       ดังนั้น การที่โรงเรียนได้จัดท าบันทึกข้อตกลง และสัญญาไว้ก่อนการเข้าศึกษาว่าหากนักเรียนไม่มี
               การพัฒนาที่ดีขึ้น และไม่สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงเรียนผู้ปกครองยินดีน านักเรียนไปเรียน

               สถานที่เหมาะสม และรับรองว่าผู้ปกครองจะควบคุมให้นักเรียนประพฤติอยู่ในระเบียบวินัยของโรงเรียน

               ถ๎าหากนักเรียนท าผิดระเบียบวินัยที่ทางโรงเรียนก าหนดไว๎ไมํวําข๎อหนึ่งข๎อใด นักเรียนต๎องพ๎นสภาพการเป็น
               นักเรียนโดยไมํมีข๎อแม๎ใดๆทั้งสิ้นนั้นเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อเด็ก

                       นอกจากนี้ การที่โรงเรียนได๎ท าสัญญาโดยมีเนื้อหาระบุให๎บุตรชายผู๎ร๎องต๎องพ๎นสภาพนักเรียนด๎วยเหตุ
               ท าผิดกฎระเบียบของโรงเรียน เป็นการก าหนดเงื่อนไขที่เกินกวํา “การลงโทษ”  ที่ก าหนดไว๎ในระเบียบ

               กระทรวงศึกษาธิการวําด๎วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2548
                       ตํอมาเมื่อผู๎ร๎องแจ๎งวํา บุตรชายได๎ลาออกจากโรงเรียนไปแล๎ว คณะอนุกรรมการจึงยุติการตรวจสอบ

               และแจ๎งความเห็นไปยังคณะกรรมการสํงเสริมการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ และโรงเรียน ก เพื่อ

               ระมัดระวังการด าเนินการมิให๎มีการละเมิดสิทธิเสรีภาพในการศึกษาของเด็กซึ่งได๎รับการรับรองตาม
               รัฐธรรมนูญแหํงราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550

                       16) ค าร้องที่ 239/2553: การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการศึกษา

                       ผู๎ร๎องร๎องวําบุตรชายและบุตรสาวของผู๎ร๎อง ก าลังเรียนอยูํระดับชั้นประถม ของโรงเรียนประถมสาธิต
               มหาวิทยาลัยของรัฐแหํงหนึ่ง ถูกทางโรงเรียนเรียกเก็บเงินคําเทอม คนละ 27,000 บาท หากไมํจํายทาง

               โรงเรียนให๎ลาออก หรือจะคัดชื่อออกจากโรงเรียน ซึ่งผู๎ร๎องอ๎างวําไมํเป็นไปตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ
               และตามรัฐธรรมนูญแหํงราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550  มาตรา 49 ซึ่งบัญญัติให๎เรียนฟรี 12 ปี จึงขอให๎

               ตรวจสอบ
                       คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหํงชาติเห็นวําเป็นประเด็นเรื่อง สิทธิในการศึกษา อันเป็นสิทธิและ

               เสรีภาพที่ได๎รับการรับรองคุ๎มครองไว๎ตามรัฐธรรมนูญแหํงราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 จึงเป็นกรณีเกี่ยวข๎อง

               กับสิทธิมนุษยชนอยูํในอ านาจหน๎าที่ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
                       คณะอนุกรรมการละเมิดสิทธิเด็ก สตรี และความเสมอภาคของบุคคลเป็นผู๎ตรวจสอบ พิจารณาแล๎ว

               เห็นวํา (รายงานผลการพิจารณาที่ 1079/2558) โรงเรียนประถมสาธิตดังกลําว มีการบริหารจัดการเทียบเทํา

               คณะ อยูํภายใต๎การก ากับดูแลของมหาวิทยาลัย ส. ตามข๎อบังคับสภามหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัย ส. วําด๎วยการ
               จัดตั้งและการบริหารงานโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัย ส. พ.ศ. 2551 บุคลากรของโรงเรียนเป็นไปตาม

               พระราชบัญญัติระเบียบข๎าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ระเบียบส านักนายกรัฐมนตรีวําด๎วยพนักงาน
               ราชการ พ.ศ. 2557 ระเบียบสภามหาวิทยาลัย วําด๎วยเรื่องพนักงานมหาวิทยาลัย หรือระเบียบ

               กระทรวงการคลังวําด๎วยเรื่องการจ๎างหรือลูกจ๎างประจ า พ.ศ. 2537 แล๎วแตํกรณี รายได๎ของโรงเรียนได๎จาก
               เงินอุดหนุนงบประมาณแผํนดิน เงินอุดหนุนจากมหาวิทยาลัย คําธรรมเนียม คําบ ารุง คําตอบแทนและเงิน
   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60