Page 562 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 562
538
4.23 การเลือกปฏิบัติด้วยเหตุตาบอดสี
582
งานวิจัยของสํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหํงชาติ ได๎ชี้ให๎เห็นประเด็นและกฎหมายที่
เกี่ยวข๎องกับการเลือกปฏิบัติด๎วยเหตุตาบอดสี ซึ่งสรุปจําแนกในมิติตํางๆได๎ 3 มิติดังนี้
1. ในมิติของการจ๎างแรงงาน นั้น ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข๎องกับข๎อจํากัด
หรือข๎อสงวนสําหรับผู๎ที่มีอาการตาบอดสีในด๎านการประกอบอาชีพ โดยมีบางอาชีพที่ไมํรับบุคคลผู๎ที่มี
อาการ ตาบอดสีเข๎าทํางาน ที่ต๎องใช๎ความสามารถในการ มองเห็นสีที่แมํนยํา อาชีพดังกลําวได๎แกํ (1) งาน
เกี่ยวกับการดําเนินงานยานยนต์ (Operating Motor Vehicles) (2) นักบิน (Pilot‖s license) (3) ชําง
ไฟฟูา (Electrician) (4) งานดับเพลิง (Firefighter) (5) งานจัดการสัมภาระ (Baggage Handler) (6)
เจ๎าหน๎าที่ตํารวจ (Police Officer) (7) จิตรกร (Painter) นอกจากนี้ ในมลรัฐนิวยอร์คจะกําหนดวําผู๎ที่เป็น
เจ๎าพนักงานตํารวจต๎องไมํเป็นผู๎ที่มีตาบอดสี ในมลรัฐวอชิงตัน กําหนดวําเจ๎าพนักงานตํารวจที่ทําหน๎าที่สาย
ตรวจต๎องมีความสามารถในการแยกความแตกตํางของสี ต๎องไมํตาบอดสีและตาบอดในความมืด สําหรับ
นครลอสแอนเจลิส กําหนดวําผู๎ที่จะได๎รับการคัดเลือก เป็นเจ๎าพนักงานตํารวจต๎องสามารถบอกสีได๎อยําง
รวดเร็วและแมํนยํา ในกรณีของสหราชอาณาจักร พบวํา ในไอร์แลนด์เหนือ กําหนดวําผู๎ที่จะสมัครเป็น เจ๎า
พนักงานตํารวจ ต๎องสามารถผํานเกณฑ์การทดสอบ City University Colour Vision ไมํต่ํากวํา 7 จาก
คะแนนเต็ม 10 ในขณะที่เวลส์ กําหนดวําผู๎ที่มีนัยน์ตาที่เรตินําไมํสามารถรับสีได๎จะถูกปฏิเสธการรับ
คัดเลือก เป็นเจ๎าพนักงานตํารวจเชํนกัน
สําหรับประเทศไทยนั้น พบวํา มีประกาศการรับสมัครคัดเลือกบุคคล เข๎ารับราชการบางอาชีพที่ไมํ
รับบุคคลผู๎ที่มีอาการตาบอดสี เชํน
1) ประกาศสํานักงานพิสูจน์หลักฐานตํารวจ เรื่องรับสมัครและคัดเลือกบุคคลภายนอกเพื่อบรรจุ
และแตํงตั้งเข๎ารับราชการเป็นข๎าราชการตํารวจชั้นสัญญาบัตร ประจําปี พ.ศ.2557 ซึ่งมีการระบุคุณสมบัติ
ทั่วไปและคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหนํงของผู๎มีสิทธิสมัครเข๎ารับ การคัดเลือกไว๎ในข๎อ 15 วํา “ไมํเป็นผู๎มี
ตาบอดสี”
582 นัยนา เกิดวิชัย และคณะ, รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง โครงการศึกษาวิจัยปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็น
ธรรมของบุคคลผู้ที่มีอาการ ตาบอดสี (กรุงเทพมหานคร: สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหํงชาติ, 2558).
