Page 489 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ

465

4.15.7 กฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศในระดับภูมิภาค

สําหรับความตกลงระหวํางประเทศในระดับภูมิภาคที่เกี่ยวข๎องกับ “Hate Speech” มีตัวอยํางเชํน

สนธิสัญญาอเมริกันว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (American Convention on Human Rights)

ข๎อ 13 วางหลัก รับรองเสรีภาพในความคิดเห็นและการแสดงออกซึ่งความคิดเห็น (13.1)

อยํางไรก็ตาม รัฐอาจมีข๎อจํากัดเสรีภาพดังกลําวได๎เชํนในกรณีการเซ็นเซอร์ซึ่งสามารถตรา
กฎหมายได๎เฉพาะในกรณีมีวัตถุประสงค์คุ๎มครองเด็กและวัยรุํน (13.4) นอกจากนี้ รัฐยังอาจตรากฎหมาย

กําหนดความผิดสําหรับ การโฆษณาชวนเชื่อให๎เกิดการทําสงคราม การสนับสนุนใดๆให๎เกิดความเกลียดชัง
ในชาติ เชื้อชาติ ศาสนา ซึ่งมีสํวนกระตุ๎นให๎เกิดความรุนแรงอันฝุาฝืนกฎหมายหรือการกระทําใดๆใน
ลักษณะดังกลําวตํอบุคคลหรือกลุํมบุคคลด๎วยเหตุเกี่ยวกับ เชื้อชาติ สีผิว ศาสนา ภาษา ชาติกําเนิด (13.5)

สนธิสัญญาสิทธิมนุษยชนแอฟริกา (African Charter on Human and Peoples' Rights)

ข๎อ 9 รับรองสิทธิของปัจเจกชนในการรับข๎อมูลขําวสาร แสดงออกและเผยแพรํความคิดเห็นของ
ตนภายใต๎ขอบเขตของกฎหมาย

อยํางไรก็ตาม แม๎วําสนธิสัญญานี้มิได๎กลําวถึง “Hate Speech” ไว๎อยํางชัดแจ๎ง แตํการสื่อสารที่
สร๎างความเกลียดชังอาจมีข๎อจํากัดได๎ภายใต๎ “ขอบเขตของกฎหมาย”

สนธิสัญญาสิทธิมนุษยชนยุโรป (European Convention on Human Rights หรือ ECHR)

ข๎อ 10 วางหลักคุ๎มครองเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น รวมทั้งเสรีภาพในการได๎รับข๎อมูล
ขําวสารโดยปราศจากการแทรกแซงของรัฐ อยํางไรก็ตามเสรีภาพดังกลําวนี้อยูํภายใต๎หน๎าที่และความ
รับผิดชอบ กลําวคือ “รัฐอาจมีการจํากัดเสรีภาพนี้โดยตรากฎหมายซึ่งมีความจําเป็นตามระบอบ

ประชาธิปไตย เพื่อผลประโยชน์ด๎านความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยของสาธารณะ การปูองกันความไมํ
สงบหรืออาชญากรรม การปูองกันสุขภาพหรือศีลธรรม การปกปูองชื่อเสียงหรือสิทธิผู๎อื่น...”