Page 484 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 484
460
ข๎อสังเกต อนุสัญญาฉบับนี้ไทยยังไมํได๎เป็นภาคี ดังนั้นจึงไมํมีพันธกรณีระหวํางประเทศที่จะต๎อง
ผูกพัน อยํางไรก็ตามหลักการเกี่ยวกับ “Hate Speech” ตามอนุสัญญานี้สามารถนํามาพิจารณาประกอบ
การศึกษาการบัญญัติกฎหมายเกี่ยวกับ “Hate Speech” ของไทยได๎
4.15.5 แนวทางการตีความตราสารระหว่างประเทศในกรอบสหประชาชาติเกี่ยวกับ “Hate
Speech”
จากหลักเกณฑ์ตามตราสารระหวํางประเทศในกรอบสหประชาชาติ ปรากฏการตีความที่สําคัญดังนี้
447
ความเห็นทั่วไป ที่ 10 ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ
“การใช๎สิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอาจถูกจํากัดได๎ โดยข๎อจํากัดนั้นอาจเกี่ยวข๎อง
กับผลประโยชน์ของบุคคลอื่น (Interests of Other Persons) หรือประโยชน์ของชุมชนโดยรวมทั้งหมด”
448
ความเห็นทั่วไป ที่ 11 ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ “มาตรา 20 กลําววํา
การโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับสงครามและการสนับสนุนให๎เกิดความเกลียดชังเกี่ยวกับชาติ เชื้อชาติ ศาสนา
ซึ่งกระตุ๎นให๎เกิดการเลือกปฏิบัติ การเป็นปฏิปักษ์ หรือความรุนแรง อาจถูกห๎ามโดยกฎหมาย คณะ
กรรมการฯมีความเห็นวํา
- กรณีการโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับสงคราม คณะกรรมการเห็นวํา ข๎อจํากัดหรือการห๎ามดังกลําว
จะต๎องสอดคล๎องกับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามมาตรา 19 ดังนั้น การจํากัดจะขยายไปถึงการ
โฆษณาชวนเชื่อทุกรูปแบบซึ่งมีลักษณะก๎าวร๎าวรุนแรงหรือละเมิดตํอความสงบอันขัดตํอสนธิสัญญาของ
สหประชาชาติ
- กรณีการสนับสนุนให๎เกิดความเกลียดชังเกี่ยวกับชาติ เชื้อชาติ ศาสนา ซึ่งกระตุ๎นให๎เกิดการเลือก
ปฏิบัติ การเป็นปฏิปักษ์ คณะกรรมการเห็นวําครอบคลุมทั้งการกระทําที่มีวัตถุประสงค์ภายในและภายนอก
รัฐนั้น โดยจะต๎องมีการตรากฎหมายกําหนดให๎ชัดเจนวําการโฆษณาชวนเชื่อและการสนับสนุนอยํางไรจึงขัด
ตํอนโยบายสาธารณะ
447
Human rights committee, General comment No. 10, adopted 29 June 1983, article 19, freedom of
expression
448 Human Rights Committee, General Comment No. 11, adopted 29 July 1983, Article 20 – Prohibition
of propaganda for war and inciting national, racial or religious hatred, para. 2 (about the relationship
between articles 19 and 20