Page 22 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2560
P. 22
บทสรุปเชิงผู้บริหาร
ในชั้นปล่อยชั่วคราว และโครงการปล่อย
ชั่วคราวด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว บทสรุป
(Electronic Monitoring : EM) เพื่อให้
ผู้ต้องหา หรือจ�าเลยมีโอกาสได้รับการปล่อย
ชั่วคราวมากขึ้น การน�า EM มาใช้กับผู้กระท�า
ความผิดในระบบงานคุมประพฤติ
อย่างไรก็ตาม ยังพบสถานการณ์
น่าห่วงใย ได้แก่ การเสียชีวิตของบุคคลที่อยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานรัฐ กระบวนการยุติธรรมในสภาวะการใช้
กฎหมายพิเศษในกรณีของการด�าเนินกระบวนการยุติธรรมตามประกาศ คสช. ฉบับที่ ๓๗/๒๕๕๗ ฉบับที่ ๓๘/๒๕๕๗
และฉบับที่ ๕๐/๒๕๕๗ ซึ่งส่งผลให้พลเรือนต้องอยู่ในอ�านาจการพิจารณาของศาลทหาร ต่อมาได้มีค�าสั่งหัวหน้า คสช.
ที่ ๕๕/๒๕๕๙ ให้พลเรือนที่กระท�าความผิดดังกล่าวนับแต่วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๙ อยู่ในอ�านาจการพิจารณาของศาล
ยุติธรรม ผลจากค�าสั่งดังกล่าวแม้ว่าจะท�าให้การกระท�าความผิดหลังจากวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๙ อยู่ในอ�านาจของศาล
ยุติธรรม แต่การกระท�าความผิดก่อนวันดังกล่าว พลเรือนยังคงถูกด�าเนินคดีในศาลทหาร ซึ่งคณะกรรมการประจ�ากติกา
ICCPR ได้มีข้อสังเกตว่าควรใช้มาตรการที่จ�าเป็นเพื่อรับพิจารณาค�าร้องให้ถ่ายโอนคดีจากศาลทหารส�าหรับความผิดที่เกิดขึ้น
ก่อนวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๙ โดยให้ถ่ายโอนคดีที่ยังพิจารณาไม่เสร็จไปยังศาลพลเรือน และเปิดโอกาสให้จ�าเลยที่เป็น
พลเรือนในคดีที่ศาลทหารตัดสินแล้วสามารถอุทธรณ์ค�าตัดสินต่อศาลพลเรือนได้
เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เสรีภาพสื่อมวลชน และเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ
และปราศจากอาวุธ
ภาพรวมในปี ๒๕๖๐ สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญถูกควบคุมโดยการใช้กฎหมายก�ากับ ตรวจสอบ และควบคุม
อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระท�าความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐
ในการเอาผิดการกระท�าที่เป็นการน�าเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และการเอาผิดฐานหมิ่นประมาท
ซึ่งต่อมารัฐบาลได้แก้ไขและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการด�าเนินการดังกล่าวโดยปรับปรุงและประกาศใช้
พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระท�าความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยไม่รวมความผิดฐาน
หมิ่นประมาทเข้าไว้ พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว ในส่วนของเสรีภาพทาง
วิชาการ มีการใช้ค�าสั่งหัวหน้า คสช. ที่ ๓/๒๕๕๘ ห้ามการชุมนุมตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป และการบังคับใช้กฎหมายอย่าง
๑
เคร่งครัดกับผู้ที่ใช้เสรีภาพในลักษณะดังกล่าว
ในขณะที่มีข้อโต้แย้งในหลายเหตุการณ์ซึ่ง
ยืนยันว่า การใช้สิทธิและเสรีภาพมิได้เกิน
ขอบเขตทางกฎหมาย และรัฐธรรมนูญได้
ให้ความคุ้มครองเสรีภาพทางวิชาการ ส่วน
เสรีภาพสื่อมวลชน ซึ่งได้รับการรับรองภายใต้
รัฐธรรมนูญ ก็ถูกจ�ากัดโดยค�าสั่งของ คสช.
และค�าสั่งหัวหน้า คสช. หลายฉบับ รวมถึง
การพิจารณาประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติ
การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพส่งเสริมจริยธรรม
๑ ตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศถือเป็นส่วนหนึ่งของสิทธิในการมีความเห็น (right to hold opinions) และสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออก (freedom of expression)
ซึ่งรวมถึงสิทธิที่จะแสวงหา รับ และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและความคิด ซึ่งรัฐสามารถจ�ากัดได้ด้วยเหตุผลตามข้อบทที่ ๑๙ (๓) ของกติกา ICCPR โดยมีเงื่อนไขตามกฎหมายสิทธิมนุษยชน
ระหว่างประเทศ.
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ | 21