Page 207 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2560
P. 207

รับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียก่อน เพื่อน�ามาประกอบการพิจารณาด�าเนินการหรืออนุญาตตามที่กฎหมายบัญญัติ
           และมาตรา ๒๗๘ ให้จัดท�าร่างกฎหมายตามมาตรา ๕๘ ให้แล้วเสร็จและเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติภายใน ๒๔๐ วัน
           นับแต่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ และให้สภาฯ พิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน ๖๐ วันนับแต่วันได้รับร่าง รวมทั้งแนวทางการ
           ตรากฎหมายโดยใช้หลักการวิเคราะห์ผลกระทบของกฎหมายตามมาตรา ๗๗  จึงควรที่รัฐบาลและหน่วยงานของรัฐจะได้

           ด�าเนินการและติดตามให้มีการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัดต่อไป


                ๒. ก�าหนดให้รัฐเป็นผู้เยียวยาความเสียหายเบื้องต้นที่เกิดขึ้นต่อชุมชนหรือประชาชนอันเป็นผลจากการด�าเนิน
           นโยบาย โครงการ หรือกิจกรรม หรือการอนุมัติ อนุญาตของรัฐ โดยการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษา

           คุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๓๕ ในหมวดว่าด้วยกองทุนสิ่งแวดล้อมให้มีวัตถุประสงค์ในการเยียวยาความเสียหายต่อ
           ผู้ได้รับผลกระทบจากการด�าเนินโครงการของรัฐ หรือเอกชนที่ได้รับอนุมัติหรืออนุญาตจากรัฐ


                ๓. ข้อเสนอแนะต่อนโยบายทวงคืนผืนป่า

                   ๓.๑ พิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้ที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบันประกอบด้วย พระราชบัญญัติป่าไม้
           พ.ศ. ๒๔๘๔ พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๐๔ พระราชบัญญัติ
           สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ ให้สอดคล้องกับหลักสิทธิในทรัพย์สิน (The Right of The First Taker) เพื่อความ
           มั่นคงแห่งสถานภาพสิทธิของราษฎร โดยรับเอาแนวคิดเรื่องการพิสูจน์สิทธิในการอยู่อาศัยตามข้อเท็จจริงมากกว่า

           การอาศัยเพียงเอกสารสิทธิของทางราชการเป็นเครื่องพิสูจน์สิทธิแต่เพียงอย่างเดียว
                   ๓.๒ นโยบายเกี่ยวกับการอนุรักษ์ป่าไม้ควรให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการก�าหนด เนื่องจากเป็นนโยบายสาธารณะ
           ที่กระทบต่อส่วนรวม ประกอบกับราษฎรบางพื้นที่มีวิถีชีวิตและประเพณีดั้งเดิมเชื่อมโยงกับป่า ดังนั้น ควรให้ชุมชน
           ดังกล่าวมีส่วนร่วมในการดูแลผืนป่าด้วย ควรมีการท�าความตกลงกับชุมชนในการบ�ารุงรักษาความสมดุลและยั่งยืนของ

           ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในแต่ละท้องที่เป็นรายกรณี และอาจมีการก�าหนดเขตวัฒนธรรมพิเศษเพิ่มขึ้น
           เพื่อคุ้มครอง วิถีชีวิตของชาติพันธุ์ต่าง ๆ โดยให้สิทธิและหน้าที่แก่ชุมชนในพื้นที่ที่จะบริหารจัดการทรัพยากรในบริเวณที่ก�าหนด
           โดยภาครัฐจะต้องปรับเปลี่ยนบทบาทจากการเป็น “ผู้ปฏิบัติ” มาเป็น “ผู้ก�ากับดูแล” ติดตามประเมินผล และให้ค�าแนะน�า
           ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาชุมชนที่อยู่อาศัยในเขตป่า





































           206 |  รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๖๐
   202   203   204   205   206   207   208   209   210   211   212