Page 96 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน
P. 96

พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน
                                                                          Human Rights Obligations of the ASEAN Community





                         ๗.๑.๒ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับประเทศสมาชิกอื่นในด้านสิทธิมนุษยชน

                                ภาคส่วนต่าง ๆ ของประเทศไทย โดยเฉพาะองค์กรภาครัฐที่มีภารกิจในการส่งเสริมและคุ้มครอง
            สิทธิมนุษยชน  เช่น  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  กระทรวงยุติธรรม  กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง

            ของมนุษย์ กระทรวงแรงงานและกระทรวงการต่างประเทศ ควรแสดงบทบาทเชิงรุกในการสนับสนุนประเทศสมาชิกอื่น
            เพื่อสร้างเครือข่ายการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในด้านสิทธิมนุษยชนในประเด็นต่าง ๆ ที่ประเทศไทยมีประสบการณ์
            ด�าเนินการอย่างยาวนาน  เช่น  กระบวนการการจัดตั้งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนระดับชาติตามหลักการปารีส  (Paris

            Principles) หรือกระบวนการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนต่อกลุ่มที่มีความอ่อนไหวหรือกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก สตรี
            คนพิการ  เป็นต้น  และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์เช่นนี้ไม่จ�ากัดเฉพาะองค์กรภาครัฐเท่านั้น ยังรวมไปถึงองค์กรภาค
            เอกชนหรือภาคประชาสังคมที่สามารถสร้างเครือข่ายกับภาคประชาสังคมในประเทศสมาชิกอื่นเพื่อเพิ่มความตระหนักรู้

            หรือประสบการณ์ในการเฝ้าระวังการละเมิดสิทธิมนุษยชน


                         ๗.๑.๓ การให้ความช่วยเหลือประเทศสมาชิกในด้านสิทธิมนุษยชน

                                เป็นการให้ความช่วยเหลือโดยตรงตามค�าร้องขอของประเทศสมาชิกอื่น เช่น การให้ความช่วยเหลือ
            ทางเทคนิคกับประเทศสมาชิกอื่น ซึ่งในด้านสิทธิมนุษยชนมีประเด็นอย่างหลากหลายที่ประเทศไทยสามารถด�าเนินการ

            ให้ความช่วยเหลือประเทศสมาชิกในทางเทคนิค (Technical Assistance) ได้ เช่น การแนะน�ากระบวนการจัดตั้งสถาบัน
            ด้านสิทธิมนุษยชนระดับประเทศตามหลักการปารีส  การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวกับประเด็นการสืบสวนสอบสวน
            กรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ โดยเฉพาะประเด็นที่มีมิติด้านภูมิภาค เช่น การค้ามนุษย์และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม

            เป็นต้น



                         ๗.๑.๔ การปรับโครงสร้างและสมรรถภาพองค์กรเพื่อรองรับภารกิจด้านประชาคมอาเซียน
                                กล่าวเฉพาะกรณีของส�านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) มีความจ�าเป็นต้อง
            พิจารณาการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อรองรับภารกิจด้านประชาคมอาเซียนที่มีข้อเท็จจริงในด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชน

            ในระดับภูมิภาคหรืออย่างน้อยเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนข้ามพรมแดน (Transboundary) ซึ่งท�าให้ต้องมีการประสาน
            ความร่วมมือกับประเทศที่เกี่ยวข้อง และเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากรของส�านักงาน กสม. ให้สามารถตรวจสอบข้อเท็จ
            จริงที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยประเด็นที่สามารถด�าเนินการได้ในทันที ได้แก่

                                ๑. การจัดตั้งหน่วยงานซึ่งมีภารกิจเฉพาะด้านอาเซียน (ASEAN Specific Unit)
                                   นอกเหนือจากข้าราชการและพนักงานประจ�าของส�านักงาน กสม. ซึ่งท�าหน้าที่เป็นบุคลากรหลัก
            ในการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการกระท�าที่ไม่สอดคล้องกับพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ

            ของเจ้าหน้าที่ของรัฐแล้ว ส�านักงาน กสม. ยังจัดตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นหลายคณะตามประเด็นสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ เช่น
            สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง สิทธิสตรี และสิทธิเด็ก เป็นต้น โดยอนุกรรมการแต่ละคณะจะมีผู้ทรงคุณวุฒิและ

            ที่ปรึกษาท�าหน้าที่ให้ความเห็นและค�าแนะน�าในประเด็นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ในวาระของ กสม. ชุดที่ ๒ (ด�ารงต�าแหน่งถึงปี
            พ.ศ. ๒๕๕๘) ปรากฏข้อร้องเรียนที่มีลักษณะข้ามพรมแดนในอาเซียนขึ้นหลายกรณี ไม่ว่าจะที่เกิดจากผู้ถูกกล่าวหาว่าละเมิด
            สิทธิมนุษยชนเป็นนิติบุคคลที่มีสัญชาติไทย (เช่น กรณีการก่อสร้างท่าเรือน�้าลึกทวาย หรือการก่อสร้างเขื่อนไซยะบุรี) หรือ

            ที่เกิดเหตุในต่างประเทศแต่มีผลกระทบต่อประเทศไทย (เช่น กรณีหมอกควันจากการเผาป่าในเกาะสุมาตรา) แต่กรณีเหล่านี้





                                                                                                              95
                                                                          ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ
   91   92   93   94   95   96   97   98   99   100   101