Page 79 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
P. 79
ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ
การศึกษาเปรียบเทียบแนวทาง
การบังคับใช้สิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม
ขององค์การระหว่างประเทศระดับภูมิภาค
๓.๑ การบังคับใช้สิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมขององค์การระหว่างประเทศด้านสิทธิ
มนุษยชนแห่งภูมิภาคยุโรป
๓.๑.๑ อนุสัญญาแห่งยุโรปว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน (European
Convention for the Protection of Human Rights and Fundamental Freedoms)
อนุสัญญาแห่งยุโรปว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ค.ศ. ๑๙๕๐ เป็นข้อตกลง
ระหว่างประเทศระดับภูมิภาคยุโรปที่สภายุโรปได้จัดท�าขึ้นเพื่อคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในยุโรป โดยรับแนวความคิดมาจาก
ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ค.ศ. ๑๙๔๘ อนุสัญญาแห่งยุโรปฉบับนี้มีเจตนารมณ์เพื่อคุ้มครองและพัฒนาสิทธิ
มนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน โดยเป็นกฎหมายระหว่างประเทศที่มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากกฎหมายระหว่าง
ประเทศทั่วไปที่ยอมรับว่า ปัจเจกบุคคลถือเป็นบุคคลหรือผู้ทรงสิทธิตามกฎหมายระหว่างประเทศได้อย่างชัดเจนที่สุด
ดังมาตรา ๓๔ แห่งอนุสัญญาฯ ระบุว่า “ศาลอาจรับค�าร้องจากบุคคลใด ๆ หรือองค์กรเอกชน หรือกลุ่มของปัจเจกบุคคล
ที่อ้างว่าตกเป็นเหยื่อของการกระท�าละเมิดจากรัฐภาคีแห่งอนุสัญญา ตามที่ก�าหนดไว้ในส่วนที่หนึ่งของอนุสัญญานี้หรือ
พิธีสาร รัฐภาคีรับรองว่าจะไม่เป็นอุปสรรคในทางใด ๆ ต่อการด�าเนินการให้มีผลบังคับใช้สิทธินี้” อันจะเห็นได้ว่ากฎหมาย
ระหว่างประเทศระดับโลกที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศใด
ไม่เคยปรากฏให้ปัจเจกบุคคลสามารถเรียกร้องสิทธิด้วยตนเองได้เลย หากจะเรียกร้องสิทธิของตนต้องร้องขอผ่านรัฐที่ตน
สังกัดหรือมีสัญชาติเพื่อให้รัฐเป็นตัวแทนในการฟ้องร้องหรือเรียกร้องเอากับรัฐอื่น ๆ นั่นเอง จึงถือได้ว่าอนุสัญญายุโรป
ว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้เป็นอนุสัญญาที่มีลักษณะเหนือรัฐ (Supra-National) ที่คุ้มครองปัจเจกบุคคลตามกฎหมายระหว่าง
ประเทศชัดเจนที่สุด
78