Page 203 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
P. 203

ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ





          ประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่จะได้รับจากการก่อมลพิษนั้น  แต่หากมีการก่อมลภาวะขึ้นในระดับที่ไม่เป็นการเกินสมควรและ

          ได้สัดส่วนกับผลประโยชน์จากการกระท�าทางเศรษฐกิจ  แม้จะก่อให้เกิดความเดือดร้อนร�าคาญแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใดบ้าง
          แต่ก็ยังไม่ถึงขนาดที่จะถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนตามมาตรา  ๘  เช่นนี้แล้วหากบุคคลดังกล่าวไม่มีความสุขในการ

          อยู่อาศัยที่เดิม ก็สามารถย้ายออกจากบริเวณดังกล่าวได้โดยไม่เป็นการล�าบากเกินควร ดังเห็นได้จากค�าพิพากษาในคดี
          Powell and Raynor v. UK
                       กรณีข้างต้นเป็นตัวอย่างกรณีที่ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมถูกพิจารณาในฐานะประโยชน์หรือสิทธิของบุคคล

          หรือกลุ่มบุคคลขนาดย่อม  ในทางกลับกัน  บางครั้งการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมเพื่อประโยชน์สาธารณะโดยรวมก็อาจเป็นการ
          ขัดแย้งกับประโยชน์หรือสิทธิของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลขนาดย่อมได้เช่นกัน ซึ่งสิทธิดังกล่าวก็เป็นสิทธิมนุษยชนประเภทหนึ่ง
          รัฐจึงจ�าต้องชั่งน�้าหนักระหว่างประโยชน์และการคุ้มครองสิทธิดังกล่าว

                       ตัวอย่างเช่นในคดี Fredin v. Sweden และคดี Papastavrou and Others v. Greece ซึ่งในทั้ง ๒ คดี
          เป็นกรณีที่มาตรการด้านการคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติของรัฐไปกระทบต่อสิทธิในทรัพย์สินของผู้ฟ้องคดี  อย่างไรก็ดี
          ศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรปไม่ได้มีหลักเกณฑ์ที่แน่นอนตายตัวว่าการคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติอันเป็นประโยชน์

          สาธารณะจะมีน�้าหนักมากกว่าสิทธิในทรัพย์สินของบุคคล แต่จะพิจารณาความเหมาะสมและความได้สัดส่วนเป็นราย
          กรณีไป โดยในคดี Fredin v. Sweden ศาลให้น�้าหนักแก่การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติมากกว่าความเดือดร้อนที่ไม่

          เกินควรของเจ้าของทรัพย์ ในขณะที่ในคดี Papastavrou and Others v. Greece ศาลได้ค�านึงถึงการสร้างสมดุลและ
          ความยุติธรรมระหว่างประโยชน์สาธารณะและสิทธิในทรัพย์สินบุคคล โดยให้จ�ากัดขอบเขตของการอนุรักษ์
          ทรัพยากรธรรมชาติเท่าที่ไม่เป็นการล่วงละเมิดสิทธิในทรัพย์สินของบุคคลเกินสมควร

                       เมื่อพิจารณาค�าพิพากษาในคดีสิทธิมนุษยชนข้างต้น จะเห็นได้ว่าการใช้กลไกสิทธิมนุษยชนในประเด็น
          สิ่งแวดล้อมของภูมิภาคยุโรปยังต้องมีการชั่งน�้าหนักระหว่างประโยชน์ด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมกับประโยชน์ด้าน

          การพัฒนาหรือการคุ้มครองสิทธิประการอื่น  โดยเป็นการพิจารณารายกรณีว่ากิจการหรือการกระท�าดังกล่าวเป็นการก่อ
          มลภาวะที่เกินสมควรและไม่ได้สัดส่วนกับประโยชน์หรือสิทธิในด้านอื่นหรือไม่
                       อย่างไรก็ดี ข้อสังเกตประการหนึ่งที่น่าสนใจ คือ หากการท�าให้สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมเป็นกรณีที่กระทบต่อ

          สิทธิในชีวิตของบุคคลใด ศาลสิทธิมนุษยชนจะไม่ได้น�าเอาปัจจัยด้านการพัฒนาหรือสิทธิประการอื่นเข้ามาพิจารณาเพื่อ
                                              107
          ชั่งน�้าหนักกับการกระท�าดังกล่าวแต่อย่างใด  ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะสิทธิในชีวิตเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่รัฐต้องให้
          ความคุ้มครอง ดังนั้น หากการกระท�าใดมีผลกระทบในทางลบแก่สิทธิดังกล่าว รัฐย่อมไม่อาจที่จะรอมชอมการกระท�านั้น

          โดยอาศัยปัจจัยด้านอื่นหรือสิทธิประการอื่นมาเป็นเหตุผลกล่าวอ้างได้
                       ภูมิภาคแอฟริกาเป็นอีกภูมิภาคหนึ่งที่มีค�าวินิจฉัยที่น่าสนใจเช่นกัน  เนื่องจากสิทธิในสิ่งแวดล้อมภายใต้
                                                                                                          108
          The  Banjul  Charter  มีการใช้ถ้อยค�าระบุให้สิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ดีของประชาชนต้องมีความสอดคล้องกับการพัฒนา
          จึงท�าให้การบังคับใช้สิทธิในสิ่งแวดล้อมของภูมิภาคแอฟริกาต้องมีการค�านึงถึงปัจจัยทางด้านการพัฒนาด้วย  อย่างไรก็ดี



                 107   คดี Oneryildiz v. Turley  คดี L.C.B. v. UK และ คดี Smaltini v. Italy ประเด็นหลักที่ศาลพิจารณาจะอยู่ที่ความสัมพันธ์

          ระหว่างการกระท�าที่กล่าวอ้างว่าเป็นการละเมิดสิทธิในชีวิตและผลร้ายที่เกิดแก่ชีวิตว่ามีความเกี่ยวพันเป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกันมาก
          เพียงพอหรือไม่  (หรือที่เรียกว่า  causal  link)  แต่ศาลไม่ได้น�าเอาปัจจัยด้านอื่น  ๆ  มาพิจารณาชั่งน�้าหนักกับผลกระทบต่อชีวิตของบุคคล
          ดังกล่าว
                 108   The Banjul Charter ใช้ถ้อยค�าว่า Right of Peoples to Satisfactory Environment Favorable to Development

          ต่างกับพิธีสารซานซัลวาดอร์ที่ไม่ได้มีการกล่าวถึงประเด็นด้านการพัฒนาไว้ในมาตราที่ระบุถึงสิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ดีแต่อย่างใด


                                                          202
   198   199   200   201   202   203   204   205   206   207   208