Page 205 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
P. 205

ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ



          ต่อชีวิตและสุขภาพของประชาชนด้วย  การที่รัฐละเลยหน้าที่ดังกล่าวจึงเป็นกรณีที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน  นอกจากนี้

          รายงานว่าด้วยสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศเอกวาดอร์ที่จัดท�าโดยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนได้กล่าวถึงการที่
          รัฐไม่ออกระเบียบหรือมาตรการเพื่อป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมจนเกิดผลร้ายแก่ประชาชนว่าอาจถือเป็นการละเมิดสิทธิ

          มนุษยชนได้  แนวทางการพิจารณาหน้าที่ของรัฐต่อสิทธิเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมจึงรวมถึงบทบาทเชิงรุกที่รัฐจะต้องกระท�าการ
          เพื่อป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วย
                       ส�าหรับภูมิภาคแอฟริกา แม้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนจะไม่ได้กล่าวโดยตรงในคดี SERAC and Another

          v.  Nigeria  ว่ารัฐต้องมีบทบาทเชิงรุก  แต่หากพิจารณาจากเนื้อหาของค�าพิพากษาที่กล่าวถึงการที่รัฐบาลไนจีเรียไม่ได้เข้า
          ตรวจสอบการด�าเนินงานและมาตรการความปลอดภัยของบริษัทน�้ามันและไม่ได้ให้ข้อมูลแก่ประชาชนเกี่ยวกับอันตรายที่

          อาจเกิดขึ้นว่าเป็นกรณีที่รัฐบาลไนจีเรียกระท�าการขัดต่อสิทธิมนุษยชนเช่นนี้แล้ว  ย่อมสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลต้องมีหน้าที่
          เชิงบวกหรือบทบาทเชิงรุกในการป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อม  เนื่องจากการที่รัฐบาลไนจีเรียบกพร่องต่อหน้าที่ดังกล่าวจึง
          เป็นกรณีที่ขัดต่อสิทธิมนุษยชน

                       กล่าวโดยสรุป  องค์กรทางสิทธิมนุษยชนในทั้งสามภูมิภาคได้มองบทบาทและหน้าที่ของรัฐต่อสิทธิมนุษยชน
          ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมว่าไม่ได้จ�ากัดอยู่เพียงหน้าที่เชิงลบเท่านั้น แต่รัฐยังต้องมีหน้าที่กระท�าการเพื่อป้องกันปัญหา
          หรือผลกระทบจากปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วย  กล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่า  รัฐมีบทบาทและหน้าที่เชิงรุกในการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม

          ด้วยนั่นเอง
                       ตารางที่ ๖.๕ เปรียบเทียบการพัฒนาประเด็นสิทธิมนุษยชนกับสิทธิในสิ่งแวดล้อมโดยคณะกรรมการสิทธิ
          มนุษยชนและศาลสิทธิมนุษยชนระดับภูมิภาคของภูมิภาคยุโรป ภูมิภาคอเมริกา และภูมิภาคแอฟริกา



                 ข้อเปรียบเทียบ             ภูมิภาคยุโรป            ภูมิภาคอเมริกา         ภูมิภาคแอฟริกา

             ๑    การน�าเอาสิทธิมนุษยชนมาใช้ในการจัดการกับปัญหาสิ่งแวดล้อม

                  ๑.๑ การอาศัย        •  อนุสัญญาแห่งยุโรปว่าด้วย •  ในเบื้องต้นอนุสัญญา  •  The Banjul Charter มี
                  สิทธิมนุษยชนเชิง    การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน   ว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่ง  บทบัญญัติรับรองสิทธิใน
                  เนื้อหาที่มีอยู่แล้ว  และเสรีภาพขั้นพื้นฐาน มิได้  อเมริกาไม่ไดบัญญัติรับรอง  สิ่งแวดล้อมไว้เป็นการเฉพาะ

                                      มีการบัญญัติรับรองสิทธิในสิ่ง  สิทธิในสิ่งแวดล้อมไว้ จึงต้อง จึงไม่จ�าเป็นต้องอาศัยสิทธิ
                                      แวดล้อมเป็นสิทธิมนุษยชน  อาศัยสิทธิมนุษยชนที่มีอยู่  มนุษยชนประเภทอื่นเพื่อ
                                      ประเภทหนึ่งเป็นการเฉพาะ จึง  แล้วมาปรับใช้ เช่น สิทธิใน  เป็นฐานในการน�าเอากลไก

                                      ต้องอาศัยสิทธิมนุษยชนที่มีอยู่  ชีวิต (คดี Yanomami v.   ทางสิทธิมนุษยชนมาใช้
                                      แล้วมาปรับใช้ เช่น       Brazil)                 จัดการปัญหาสิ่งแวดล้อม
                                      - สิทธิในชีวิต (คดี Oneryildiz       •  การเชื่อมโยงประเด็น
                                        v. Turkey)             สิ่งแวดล้อมเข้ากับ

                                      - สิทธิในการเคารพชีวิตส่วนตัว   สิทธิมนุษยชนได้มีการกล่าวถึง
                                        และครอบครัว (คดี Lopez   อย่างชัดเจนในรายงานว่าด้วย
                                      - Ostra v. Spain)        สถานการณ์สิทธิมนุษยชน
                                      •  ข้อจ�ากัดในการที่จะต้อง  ในประเทศเอกวาดอร์

                                      พิสูจน์ให้เห็นถึง Causal Link
                                      และต้องไม่ใช่กรณีที่ภยันตราย
                                      ยังอยู่ห่างไกล


                                                          204
   200   201   202   203   204   205   206   207   208   209   210