Page 171 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
P. 171
ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ
การน�าหลักการ Free, Prior and Informed Consent ของ OECD ไปปรับใช้ในกรณี
สิ่งแวดล้อมถือว่าเป็นการด�าเนินการตามสิทธิเชิงกระบวนการได้ครบถ้วนและจะท�าให้สิทธิมนุษยชนอื่น ๆ ได้รับความ
คุ้มครองไปด้วย โดย OECD ได้แนะน�าให้กระท�าเป็นขั้นเป็นตอน ๗ ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ ๑ ต้องค้นหาผู้ที่เป็นเจ้าของโครงการหรือมี
ส่วนรับผิดชอบโครงการ เช่น รัฐบาล บริษัทเอกชน หรือท้องถิ่น
เพื่อจะได้ทราบว่าผู้ใดมีหน้าที่ในการให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิ
เชิงกระบวนการต่าง ๆ ที่จะต้องก�าเนินการต่อไป
ขั้นตอนที่ ๒ เรียกข้อมูลที่จ�าเป็นจากเจ้าของโครงการ
ข้อมูลดังกล่าวต้องมีความเพียงพอที่ประชาชนจะสามารถ
ตัดสินใจได้ เช่น โครงการนี้ท�าอะไร ขนาดใหญ่แค่ไหน เริ่ม
ก่อสร้างและสิ้นสุดเมื่อใด บริษัทก่อสร้าง ผู้ลงทุน เจ้าของ
โครงการมีประสบการณ์อย่างไร เคยท�าผิดพลาดอะไรบ้าง
รัฐบาลให้การสนับสนุนหรือไม่ อย่างไร รวมถึงเงื่อนไขบังคับ
ก่อนที่เจ้าของโครงการจะด�าเนินการทั้งหลาย เป็นต้น
ขั้นตอนที่ ๓ จัดให้มีการประชุมอภิปรายปัญหากันภายใน
ชุมชน โดยน�าข้อมูลที่ได้รับทั้งหมดมาร่วมอภิปรายให้ความเห็น
ถึงข้อดี และข้อเสียทั้งหลายที่ชุมชนและสังคมจะได้รับ รวมทั้ง
ข้อเจรจาต่อรองกับเจ้าของโครงการ
ขั้นตอนที่ ๔ จัดการประชุมเจรจากับเจ้าของโครงการ ซึ่งการเจรจาในขั้นตอนนี้ยังไม่ถือว่าเป็นการตัดสินใจหรือ
ตกลงกัน เพียงแต่เป็นการรับฟังปัญหาและแนวทางในการปรองดองกันระหว่างเจ้าของโครงการและชุมชน
ขั้นตอนที่ ๕ ปรึกษาที่ปรึกษาอิสระที่มีความเชี่ยวชาญทั้งทางด้านกฎหมายและด้านเทคนิค โดยน�าข้อมูลทั้งหมด
ให้แก่ผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งข้อเจรจาต่อรองทั้งหลาย เพื่อน�าไปสู่วิธีคิดและตัดสินใจเกี่ยวกับการด�าเนินการของโครงการ
ขั้นตอนที่ ๖ จัดประชุมเพื่อออกเสียงลงมติอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ด�าเนินโครงการในชุมชน
ขั้นตอนที่ ๗ หากโครงการได้รับการอนุญาต เจ้าของโครงการและชุมชนจะต้องมีการสื่อสารให้ข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอน
การด�าเนินการเป็นประจ�า รวมถึงการรายงานความก้าวหน้าในแต่ละขั้นตอนที่ส�าคัญให้ชุมชนได้รับทราบ
๖.๑.๑.๓ สนธิสัญญาระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม
ในส่วนนี้จะวิเคราะห์ความเชื่อมโยงระหว่างตราสารระหว่างประเทศอันมีมิติด้านสิทธิมนุษยชน
ที่กล่าวถึงสิทธิที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม กับตราสารสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศที่มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน
ซึ่งจะแสดงให้เห็นความเชื่อมโยงของตราสารทั้งสองประเภทว่ามีความเชื่อมโยงกันอย่างไร และสิทธิเชิงเนื้อหาและสิทธิ
เชิงกระบวนการอะไรบ้างที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมา หรือมีการยอมรับหรือรับรองเพิ่มขึ้นในสังคมระหว่างประเทศ ทั้งนี้ จะ
วิเคราะห์ทั้งตราสารที่มีผลผูกพันรัฐภาคีและตราสารที่ไม่มีผลผูกพันรัฐภาคี หรือตราสาร Soft Law ระหว่างประเทศที่อาจ
มีผลในทางกฎหมายระหว่างประเทศต่อไปในอนาคต
170

