Page 168 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
P. 168

ความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม
                                                                    เพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน





                                        นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างจารีตประเพณีระหว่างประเทศกับสิทธิมนุษยชนนั้น

            เป็นเรื่องที่มีความใกล้เคียงกันอย่างแยกกันไม่ออก เนื่องจากพัฒนาการของสิทธิมนุษยชนกับจารีตประเพณีระหว่าง
            ประเทศได้รับการพัฒนามาพร้อมกัน โดยก่อนที่เรื่องใดจะกลายเป็นจารีตประเพณีระหว่างประเทศก็จะเป็นจารีตประเพณี

            แห่งท้องถิ่นนั้น ๆ เสียก่อน และก่อนที่จะเป็นจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นก็จะเป็นวัฒนธรรมแห่งท้องถิ่นแต่ละท้องถิ่น ผู้วิจัย
            พบว่าหลายกรณีที่สิทธิมนุษยชนก็แตกต่างจากจารีตประเพณี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นอันเป็นวัฒนธรรม
            (Culture) วัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่นมีความหลากหลาย โดยบางวัฒนธรรมมีประเด็นเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน เช่น วัฒนธรรม

            ที่เชื่อว่าผู้หญิงจะต้องน�าห่วงมาห้อยคอจนคอยาว หรือวัฒนธรรมที่บังคับให้ผู้หญิงต้องยอมรับภริยาอีกหลาย ๆ คนของ
            สามี  วัฒนธรรมที่ต้องตัดอวัยวะบางอย่างของเด็กทิ้งไป  วัฒนธรรมเหล่านี้มีความขัดแย้งกับสิทธิมนุษยชนอย่างเห็นได้ชัด
            และประเด็นเหล่านี้ก็ถูกโต้แย้งจากทฤษฎีเกี่ยวสิทธิมนุษยชนมาโดยตลอดว่า สิทธิมนุษยชนควรที่จะน�าความเป็นสากล

            (Universal) มาพิจารณาเป็นองค์ประกอบในสิทธิมนุษยชนหรือไม่
                                        ยิ่งไปกว่านั้นการยอมรับสิทธิในวัฒนธรรม (Cultural Right) ว่าเป็นสิทธิมนุษยชน
            ประเภทหนึ่ง  ยังก่อให้เกิดความยากในการแบ่งแยกระดับของการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนว่ารัฐแต่ละรัฐสมควรจะคุ้มครอง

            สิทธิมนุษยชนในระดับใด เนื่องจากความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งวัฒนธรรมของบุคคลเพียงคนเดียว (Individual
            Rights) หรือวัฒนธรรมของกลุ่ม (Group Rights) และปรากฏต่อมาในเรื่องของสิทธิของชนกลุ่มน้อย (Minority Rights)

            สิทธิในการตัดสินใจเลือกผู้ปกครอง (Right to Self-Determination) หรือสิทธิของชนพื้นเมือง (Right of Indigenous
            Peoples) ซึ่งมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก  103  และสิทธิที่เกิดขึ้นมากมายเหล่านี้จึงท�าให้เกิดการเรียกร้องสิทธิใน
            สิ่งแวดล้อม (Right to Environment) เพื่อคุ้มครองสิทธิให้มนุษย์อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความเหมาะสมอีกประการหนึ่ง

            ซึ่งปัญหาเหล่านี้ยังคงไม่ได้รับการยุติในระดับระหว่างประเทศ



                                  ข. หลักกฎหมายทั่วไปในนานาอารยประเทศ
                                     หลักกฎหมายทั่วไปที่ใช้ในนานาอารยประเทศมักมีรูปแบบเป็นสุภาษิตกฎหมายตามที่
            ปรากฏอยู่ในกฎหมายภายในของหลาย ๆ ประเทศอยู่แล้ว เช่น หลักการไม่ลงโทษ ๒ ครั้งในความผิดครั้งเดียว (Double

            Jeopardy) หลักความสุจริต (Good Faith) หลักมาศาลต้องมาด้วยมือสะอาด เป็นต้น แต่ลักษณะของสิทธิมนุษยชนเป็น
            แนวทางปฏิบัติเสียมากกว่า และยังไม่พบหลักกฎหมายทั่วไปในสิทธิมนุษยชน ดังนั้น ในปัจจุบันจึงไม่อาจวิเคราะห์หลัก
            กฎหมายทั่วไปในกรณีของสิทธิในสิ่งแวดล้อมได้



                         ๖.๑.๑.๒ บทบาทขององค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน
                                  ๑) องค์การสหประชาชาติ

                                     ในระหว่างปี ค.ศ. ๒๐๑๒ คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติได้จัดให้มีการศึกษา
            ในประเด็นที่เกี่ยวกับพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย  ความสะอาด  สุขภาพและความยั่งยืนทาง

            สิ่งแวดล้อมที่ผ่านมาในรอบ ๒๐ ปีย้อนหลัง ผลปรากฏว่าความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมยังคงมีความ
            ไม่ลงรอยกันระหว่างประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก



                    103   From Routledge Handbook of International Human Rights Law: Customary law and human rights (pp 308)

            by Evadne Grant edited by Scott Sheeran and Nigel Rodley 2013, Oxon: Routledge.



                                                          167
   163   164   165   166   167   168   169   170   171   172   173