Page 23 - คู่มือประเมินผลด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence Handbook) ของธุรกิจการโรงแรม
P. 23

ประโยชน์ทางธุรกิจของ HRDD      4






                  การตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้านยังส่งผลต่อวัฒนธรรมองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้บริหาร
            ให้ความสำาคัญต่อประเด็นนี้อย่างจริงจัง เช่น ใช้เป็นหนึ่งในเหตุผลการตัดสินใจของบริษัท จนนำาไปสู่การเปลี่ยนทัศนคติ
            ของฝ่ายต่างๆ ได้ (Harrison, 2013) การที่บริษัทพัฒนาผลการดำาเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนของตนเองและสร้างความ

            เปลี่ยนแปลงต่อโครงสร้างการทำางานภายในบริษัทได้มากกว่าการดำาเนินการเมื่อมีความท้าทายจากภายนอกเท่านั้น
            จากการสำารวจของ German Global Compact Network และ eConsense เมื่อปี 2557 เกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการ
            จัดทำาการตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้านของบริษัท 39 แห่ง พบว่า นอกจากปัจจัยภายนอก ได้แก่ ความเสี่ยง
            ด้านชื่อเสียง ความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและการที่บริษัทเข้าร่วมเป็นสมาชิกของเครือข่ายด้านธุรกิจและ
            สิทธิมนุษยชนแล้ว ปัจจัยภายใน ซึ่งหมายถึงการที่ผู้บริหารระดับสูงแสดงความตั้งใจที่จะสนับสนุนการคุ้มครอง

            สิทธิมนุษยชนอย่างจริงจังผ่านช่องทางต่างๆ เช่น มีข้อผูกมัดทางนโยบาย การแสดงให้เห็นว่าสิทธิมนุษยชนจะกลายเป็น
            ข้อได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจได้ ก็เป็นสิ่งสำาคัญไม่แพ้กัน


                  กระบวนการตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้านถือเป็น “A Game-Changer” สำาหรับบริษัทต่างๆ เนื่องจาก
            สามารถเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับสิทธิมนุษยชนจากการ “Naming and Shaming” ที่มาจากผู้เล่นภายนอก
            ซึ่งสะท้อนความล้มเหลวของบริษัทในการปกป้องสิทธิมนุษยชน มาเป็น “Knowing and Showing” ซึ่งเป็นผลการปฏิบัติ
            งานของบริษัท แนวทางเช่นนี้ก่อให้เกิดประโยชนมากมาย แทนที่จะรอให้นักรณรงค์หรือสื่อสร้างผลกระทบทางลบแก่
            บริษัท


                  นอกจากความกังวลต่อความเสี่ยงด้านชื่อเสียง แรงผลักดันจากภาครัฐก็มีส่วนสำาคัญต่อการจัดทำาการตรวจสอบ
            ด้านสิทธิมนุษยชนรอบด้านของธุรกิจ ยกตัวอย่างเช่น กฎหมาย Burma Responsible Investment Requirements

            ของสหรัฐอเมริกาที่กำาหนดให้บริษัทสัญชาติอเมริกันทุกบริษัทที่ลงทุนในเมียนมาร์จำานวน 500,000 เหรียญสหรัฐขึ้นไป
            ต้องจัดทำารายงานด้านสิทธิมนุษยชนเสนอต่อกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา บริษัทโคคา-โคลา ได้เริ่มต้น
            จัดทำารายงานด้านสิทธิมนุษยชนจากกฎหมายนี้ ผลจากการดำาเนินการทำาให้บริษัทได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิ
            หลายด้าน เช่น การเลือกปฏิบัติทางเพศในการจ้างงาน ผู้หญิงได้รับค่าจ้างน้อยกว่าผู้ชาย บริษัทจึงจัดอบรมให้ความรู้
            แก่บริษัทคู่ค้าเพื่อแก้ไขปัญหานี้ นอกจากนี้ บริษัทยังเริ่มต้นประเมินผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนในห่วงโซ่อุปทานน้ำาตาล

            ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิที่ดิน แรงงานเด็ก และแรงงานบังคับใน 28 ประเทศ หลังจากเห็นว่าการดำาเนินงานของบริษัท
            ได้ส่งผลกระทบต่อสิทธิแรงงาน สิทธิเด็ก และสิทธิที่ดินในห่วงโซ่อุปทานอย่างไร



                  แนวโน้มของการบังคับทางกฎหมายยังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ   ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสหภาพยุโรปที่ได้ออกกฎระเบียบ
                                                                  3
            EU Non-Financial Reporting Directive of 2014 กำาหนดให้บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และมีลูกจ้าง 500
            คนขึ้นไป จัดทำารายงานเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ในรายงานต้องเปิดเผยนโยบาย ผลการดำาเนินงาน
            และผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน กระบวนการตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน รวมทั้งเปิดเผยแนวทางการ
            แก้ไขปัญหา (Business & Human Rights Resource Centre, 2014)  มีผลบังคับใช้ในปี 2560 ความตื่นตัวจากการละเมิด

            สิทธิมนุษยชนในห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยังก่อให้เกิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องอีกหลายฉบับในหลาย
            ประเทศ เช่น UK Modern Slavery Act 2015 ที่กำาหนดให้บริษัทมีกระบวนการตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน
            เพื่อเป็นกรอบในการป้องกัน บรรเทาความเสี่ยงจากการค้าทาสสมัยใหม่ในห่วงโซ่อุปทาน California Transparency in

            Supply Chain Act 2010 กำาหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจในรัฐแคลิฟอร์เนียเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนตลอดห่วงโซ่
            อุปทาน


            3 ดูตัวอย่างกฎหมายในประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้านเพิ่มเติมได้ที่
            https://www.cambridge.org/core/journals/business-and-human-rights-journal/article/human-rights-due-diligence-in-law-and-practice-good-practices-and-challenges-for-business-enter-
            prises/0306945323DD6F6C9392C5DBDE167001gence-in-law-and-practice-good-practices-and-challenges-for-business-enterprises/0306945323DD6F6C9392C5DBDE167001
                                                                                                          21
   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28