Page 65 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2559
P. 65
สถานการณ์สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองมีความเกี่ยวข้องกับหลักการในกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง
และสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights: ICCPR) ซึ่งประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคี
เมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๓๙ และมีผลใช้บังคับกับประเทศไทยเมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๔๐ โดยได้ท�าค�าแถลงตีความ ๔ ประเด็น
ได้แก่ (๑) ข้อ ๑ วรรค ๑ เรื่อง การใช้สิทธิในการก�าหนดเจตจ�านงของตนเอง การก�าหนดสถานะทางการเมือง การด�าเนินการทาง
เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมอย่างเสรี (๒) ข้อ ๖ วรรค ๕ การพิพากษาประหารชีวิตบุคคลอายุต�่ากว่า ๑๘ ปี (๓) ข้อ ๙ วรรค
๓ ระยะเวลาในการน�าผู้ถูกจับกุมไปศาล และ (๔) ข้อ ๒๐ วรรค ๑ การห้ามโฆษณาชวนเชื่อเพื่อสงคราม ซึ่งต่อมา ประเทศไทย
ได้ถอนค�าแถลงตีความข้อ ๖ วรรค ๕ และข้อ ๙ วรรค ๓ มีผลตั้งแต่วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๕ เป็นต้นมา โดยในการเข้าเป็นภาคี
กติกา ICCPR รัฐภาคีมีหน้าที่ต้องจัดท�าและน�าเสนอรายงาน
ฉบับแรก (Initial Report) ต่อคณะกรรมการประจ�ากติกา ICCPR
ภายใน ๒ ปีหลังจากที่เข้าเป็นภาคี และน�าเสนอรายงานฉบับต่อไป
ในช่วงเวลาทุก ๆ ๕ ปี ส�าหรับประเทศไทยได้เสนอรายงานต่อ
๒๑
คณะกรรมการฯ ฉบับแรกเมื่อปี ๒๕๔๘ โดยในสมัยประชุมที่ ๘๔
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เมื่อวันที่ ๑๙ - ๒๐
กรกฎาคม ๒๕๔๘ คณะกรรมการฯ มีข้อสังเกต (Concluding
Observations) ต่อประเทศไทย โดยเห็นควรให้มีการจัดตั้งกลไก
สอบสวนที่เป็นกลางในกรณีตากใบ กรือเซะ และสงครามปราบปราม
ยาเสพติด เพื่อประกันว่าการประกาศใช้กฎหมายพิเศษด้านความ
มั่นคงในพื้นที่ชายแดนใต้สอดคล้องตามบทบัญญัติของ ICCPR
ข้อ ๔ ว่าด้วยการประกาศภาวะฉุกเฉิน (State of Emergency)
การทบทวนการใช้โทษประหารชีวิตกับคดีฐานความผิดเกี่ยวกับ
ยาเสพติด และประกันว่าผู้ถูกคุมขังจะเข้าถึงการได้รับค�าปรึกษา
ทางกฎหมายและเข้าถึงแพทย์ ให้ผู้ถูกคุมขังมีโอกาสแจ้งครอบครัวทราบ
เกี่ยวกับการจับกุมและสถานที่คุมขัง มีการสอบสวนทันทีที่มีการกล่าวหาว่ามีการกระท�าทรมานโดยเจ้าหน้าที่ต�ารวจ
และเมื่อมีการตายในสถานคุมขัง มีการลงโทษผู้กระท�าผิดและจ่ายค่าเสียหายแก่ผู้เสียหายหรือครอบครัว การปรับปรุงสภาพเรือนจ�า
และใช้การจ�าคุกเป็นการลงโทษล�าดับสุดท้าย การยุติการขังเดี่ยว มีการคุ้มครองเยาวชนและไม่ขังเยาวชนรวมกับผู้ใหญ่
มีการจัดตั้งกลไกการส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือการส่งกลับคนต่างด้าว โดยเคารพต่อหลักการไม่ส่งตัวกลับ (Non – Refoulement)
มีมาตรการป้องกันและคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงความเห็น โดยเฉพาะการคุ้มครองนักข่าวนักหนังสือพิมพ์จากการถูกข่มขู่คุกคาม
มีมาตรการคุ้มครองผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชนจากการถูกคุกคามท�าร้าย มีการสอบสวนเมื่อมีการกล่าวหาว่าบุคคลดังกล่าว
ถูกคุกคามท�าร้ายโดยเจ้าหน้าที่รัฐ และมีการเยียวยาผู้เสียหายหรือครอบครัว ตลอดจนมีมาตรการน�าผู้กระท�าผิดค้ามนุษย์มาลงโทษ
และคุ้มครองพยานและผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์
ทั้งนี้ ในเดือนเมษายน ๒๕๕๙ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้จัดท�ารายงานคู่ขนานซึ่งประเมิน
สถานการณ์ในมิติต่าง ๆ โดยเนื้อหาครอบคลุมในประเด็นสิทธิและเสรีภาพของประชาชน เช่น การเข้าควบคุมการบริหาร
ประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ การชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มการเมืองต่าง ๆ
สิทธิในกระบวนการยุติธรรม การพิจารณาทบทวนการใช้โทษประหารชีวิต และสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ในประเด็นการใช้กฎหมายพิเศษด้านความมั่นคง ปัญหาการทรมาน และกระบวนการพิจารณาเยียวยาผู้เสียหาย เป็นต้น ๒๒
๒๑ ประเทศไทยน�าเสนอรายงานการปฏิบัติตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ฉบับที่ ๒ ต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
แห่งสหประชาชาติ เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๐
๒๒ ดูรายละเอียดรายงานได้ที่ http://www.nhrc.or.th
รายงานผลการประเมินสถานการณ์ 64 ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๕๙