Page 52 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2559
P. 52
ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่ารัฐยังคงใช้มาตรการและกลไกทางกฎหมายในการจ�ากัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน
เกินความจ�าเป็น โดยขาดการพิจารณายกเลิกหรือปรับปรุงกฎหมายที่หมดความจ�าเป็น หรือไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์
หรือที่เป็นอุปสรรคต่อการด�ารงชีวิตของประชาชน
๒. สถานการณ์ด้านสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม
สถานการณ์สิทธิมนุษยชนด้านสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม แนวทางในการประเมินสถานการณ์
พิจารณาตามหลักการว่าด้วยการท�าให้สิทธิซึ่งรับรองไว้ในกติการะหว่างประเทศด้านสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
(ICESCR) โดยบัญญัติไว้ในข้อ ๒ ให้รัฐภาคีแต่ละรัฐรับด�าเนินการโดยเอกเทศ และโดยความร่วมมือและความช่วยเหลือ
ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทางเศรษฐกิจและวิชาการโดยใช้ประโยชน์สูงสุดจากทรัพยากรที่มีอยู่ เพื่อให้สัมฤทธิ์ผล
ในการท�าให้สิทธิซึ่งรับรองไว้ในกติกานี้เป็นจริงอย่างบริบูรณ์ โดยล�าดับด้วยวิธีทั้งปวงที่เหมาะสม รวมทั้งการก�าหนดมาตรการ
ทางกฎหมายด้วย ในส่วนนี้แบ่งสถานการณ์ออกเป็น ๓ เรื่องหลัก ได้แก่ (๑) สิทธิทางการศึกษา (๒) สิทธิด้านสุขภาพ และ
(๓) สิทธิในการประกอบอาชีพและการท�างาน โดยสรุปได้ดังนี้
สิทธิด้านการศึกษา
รัฐมีนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ในการประกันการเข้าถึงสิทธิทางการศึกษาภาคบังคับ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายขั้นพื้นฐาน และ
มีความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะด�าเนินการเพื่อให้บรรลุสิทธิทางการศึกษาโดยล�าดับ ซึ่งสอดคล้องกับข้อ ๑๓ ของกติกา ICESCR
ในปี ๒๕๕๙ รัฐได้มีการด�าเนินการให้เกิดความก้าวหน้าในสิทธิทางการศึกษาหลายประการ อาทิ เช่น การสนับสนุน
งบประมาณด้านการศึกษา คิดเป็นร้อยละ ๒๐ ของงบประมาณ
รายจ่ายทั้งหมดอย่างต่อเนื่อง การประกันการเข้าถึงการศึกษา
ภาคบังคับโดยไม่มีการเก็บค่าใช้จ่าย และขยายให้ครอบคลุม
ถึงการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๑๕ ปี การขับเคลื่อนการปฏิรูป
การศึกษาในระดับภูมิภาค โดยค�านึงถึงการมีส่วนร่วมของ
ภาคประชาสังคม การแก้ไขพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อ
การศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๑ เพื่อลดข้อจ�ากัดการเข้าถึงกองทุนกู้ยืม
เพื่อการศึกษา โดยมิได้จ�ากัดเฉพาะเยาวชนที่ขาดแคลน
ทุนทรัพย์เท่านั้น แต่เพิ่มโอกาสให้เยาวชนที่เรียนดีและต้องการ ภาพรวมสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ปี ๒๕๕๙
ศึกษาสาขาวิชาขาดแคลน หรือสาขาที่เป็นความต้องการเพื่อพัฒนาประเทศ ได้เข้าถึงสิทธิทางการศึกษาในขั้นอุดมศึกษา หรือ
ขั้นวิชาชีพมากขึ้น ทั้งนี้ ยังพบข้อท้าทายที่ส�าคัญ กล่าวคือ
• การด�าเนินการปฏิรูประบบการศึกษาอย่างจริงจังเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การ
ดูแลกลุ่มเด็กและเยาวชนที่อยู่ในภาวะเสี่ยง กลุ่มเด็กไร้รัฐ ไร้สัญชาติ กลุ่มชาติพันธุ์และผู้ลี้ภัย รวมถึงกลุ่มเด็กที่ติดตามแรงงาน
ต่างด้าว กลุ่มผู้ด้อยโอกาส และกลุ่มประชาชนที่อยู่ในชนบทให้เข้าถึงสิทธิทางการศึกษาที่สอดคล้องกับความต้องการ
• การจัดการระบบศึกษาที่ยังไม่สอดคล้องกับระบบสังคม วัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสอนผ่านระบบพหุภาษา
หรือภาษาแม่ ตลอดจนการรักษารากทางวัฒนธรรมและฐานทรัพยากรของชุมชน โดยมีข้อติดขัดในการด�าเนินการตามมาตรา ๑๒ บทที่
๒
ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และกฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิขององค์กรชุมชน และ
องค์กรเอกชนในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานในศูนย์การเรียน พ.ศ.๒๕๕๕
ทั้งนี้ การท�าให้บรรลุผลสิทธิทางการศึกษาจะเป็นฐานที่ส�าคัญ ในการส่งเสริมและสนับสนุนการบรรลุสิทธิมนุษยชน
ประเภทอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิด้านสุขภาพ สิทธิแรงงาน หรือสิทธิทางการเมืองและสิทธิพลเมือง
รายงานผลการประเมินสถานการณ์ 51 ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๕๙

