Page 49 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2559
P. 49

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ประมวลข้อมูลสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยที่เกิดขึ้นในปี ๒๕๕๙

        ทั้งจากบันทึกข้อเท็จจริง เหตุการณ์ รายงานการติดตามตรวจสอบกรณีร้องเรียน สถิติข้อมูลของหน่วยงาน/องค์กรวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง
        ตลอดจนรายงานสถานการณ์ที่จัดท�าโดยกลุ่มองค์กรที่ปฏิบัติงานด้านส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนหลาย ๆ แห่ง โดยพิจารณาควบคู่กับ
        การด�าเนินการของรัฐบาล ทั้งในด้านนโยบาย การพัฒนา การปฏิรูปสังคมและการเมืองของประเทศไทย ซึ่งพบว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นตั้งใจ
        ในการแก้ไขปัญหาที่ยุ่งยากและซับซ้อน ที่ผ่านมา มีผลการด�าเนินงานในหลายด้านที่เห็นความก้าวหน้าของสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน
        แต่อย่างไรก็ตาม ยังพบข้อเท็จจริงที่สะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ปัญหาที่มีผลกระทบต่อการสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในบางด้าน ซึ่งควร

        น�าเสนอให้รัฐบาลพิจารณาด�าเนินมาตรการเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยการน�าเสนอจะแบ่งสถานการณ์สิทธิมนุษยชนออกเป็น
        ๔ ส่วนหลัก ๆ ได้แก่


                 สถานการณ์ด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ได้แก่ การทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย สิทธิในกระบวนการ

        ยุติธรรม สิทธิในความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุม


                 สถานการณ์ด้านสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ได้แก่ สิทธิทางการศึกษา สิทธิด้านสุขภาพ และสิทธิ
        ในการประกอบอาชีพและการท�างาน



                 สถานการณ์สิทธิมนุษยชนกรณีเฉพาะ ได้แก่ สถานการณ์การค้ามนุษย์ ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน สถานการณ์ใน
        จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสิทธิชุมชนด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม



                 สถานการณ์สิทธิมนุษยชนของกลุ่มเฉพาะ ได้แก่ กลุ่มชาติพันธุ์ คนไร้รัฐและไร้สัญชาติ กลุ่มคนพิการ กลุ่มเด็ก กลุ่มนัก
        ปกป้องสิทธิมนุษยชน กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มแรงงานข้ามชาติและผู้ติดตาม และกลุ่มสตรี


                 โดยสรุปเนื้อหาในภาพรวมแต่ละสถานการณ์ ดังนี้


          ๑.  สถานการณ์ด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง



                 สถานการณ์สิทธิมนุษยชนด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และการต่อต้านการทรมาน การประติบัติหรือ

        การลงโทษอื่นที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม หรือที่ย�่ายีศักดิ์ศรี กสม. พิจารณาสารัตถะของสิทธิตามที่บัญญัติไว้ในข้อบทตามพันธกรณี
        ระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นภาคี ได้แก่ กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางพลเมืองและสิทธิทาง
        การเมือง (ICCPR) อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการต่อต้านการทรมาน และการประติบัติ หรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย
        ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย�่ายีศักดิ์ศรี (CAT) และอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญ
        โดยถูกบังคับ (CED) ซึ่งแม้ว่าประเทศไทยยังอยู่ในระหว่างกระบวนการให้สัตยาบันเพื่อเข้าเป็นภาคี และอนุสัญญาฯ จะยังไม่มีผล

        ใช้บังคับกับประเทศไทย แต่รัฐบาลจะต้องไม่กระท�าการใด ๆ ที่เป็นการขัดต่อสาระและความมุ่งประสงค์ (Objects and Purposes)
        ของอนุสัญญาดังกล่าว นอกจากนี้ ยังรวมถึงข้อเสนอแนะด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยได้รับมาปฏิบัติภายใต้กลไก UPR
        ที่เกี่ยวกับสิทธิที่ได้รับรองไว้ในกติกา ICCPR อนุสัญญา CAT และอนุสัญญา CED ทั้งนี้ มีสถานการณ์หลักสรุปได้ ดังนี้



        การทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย
                 ประเทศไทยได้ยกร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ พ.ศ. ....
        โดยผนวกหลักการและสาระส�าคัญของอนุสัญญา CAT และอนุสัญญา CED ไว้ด้วยกัน ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๒๔
        พฤษภาคม ๒๕๕๙ เห็นชอบการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญา CED และร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและ

        การบังคับบุคคลให้สูญหาย พ.ศ. .... ทั้งนี้ กสม. ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทรมานบุคคลและการบังคับบุคคลให้สูญหาย


                                 รายงานผลการประเมินสถานการณ์  48  ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๕๙
   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54