Page 44 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2559
P. 44
นอกจากสนธิสัญญาหลักและพิธีสารข้างต้นแล้ว ประเทศไทยยังให้สัตยาบันกับอนุสัญญาที่จัดท�าขึ้นโดยองค์การ
๗
แรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization: ILO) รวม ๑๔ ฉบับ อาทิ อนุสัญญา ILO ฉบับที่ ๑๔
เรื่อง การหยุดพักผ่อนประจ�าสัปดาห์ในงานอุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๔๖๔ (๑๙๒๑) ฉบับที่ ๑๙ เรื่อง การปฏิบัติโดยเท่าเทียมกัน
ในเรื่องค่าทดแทนส�าหรับคนงานชาติในบังคับและคนต่างชาติ พ.ศ. ๒๔๖๘ (๑๙๒๕) ฉบับที่ ๑๘๒ เรื่อง การห้ามและ
การด�าเนินการโดยทันทีเพื่อขจัดรูปแบบที่เลวร้ายที่สุดของการใช้แรงงานเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๒ (๑๙๙๙) เป็นต้น
๓. กฎหมายภายในของประเทศไทย
ประกอบด้วย กฎหมาย กฎ ระเบียบภายในประเทศ นโยบาย แผนงาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการส่งเสริมและคุ้มครอง
สิทธิมนุษยชน และที่ไม่ขัดหรือแย้งกับข้อ ๑ และ ๒
๔. ปฏิญญา ข้อมติ มาตรฐาน แนวทาง ข้อก�าหนดระหว่างประเทศ
ประกอบด้วย ปฏิญญา ข้อมติ มาตรฐาน แนวทาง ข้อก�าหนดระหว่างประเทศ ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับสากล
ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ตลอดจนค�ามั่นต่าง ๆ ซึ่งรัฐบาลไทยได้ให้ (pledge) และ/หรือ
รับรอง (accept) ไว้ต่อประชาคมระหว่างประเทศ อาทิ ในกระบวนการเสนอรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศ
ต่อสหประชาชาติ (Universal Periodic Review: UPR) ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนของการจัดท�าข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
ที่เกี่ยวกับการด�าเนินมาตรการและการบริหารจัดการด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งมีความสมดุล เป็นธรรม และเหมาะสม
ตามสถานการณ์ภายในประเทศ ดังนั้น ในการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชน กสม. ได้น�าหลักการส�าคัญของกฎหมาย
สิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ มาใช้ในการวิเคราะห์ และท�าข้อเสนอเชิงนโยบาย กล่าวคือ
๑) หลักการส�าคัญเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วย
๑.๑ ความเสมอภาค (equality) คือ การเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ โดยทุกคนเกิดมาอย่างอิสระ และมีความ
เสมอภาคในเรื่องศักดิ์ศรีและสิทธิ และการไม่เลือกปฏิบัติ (non-discrimination) ซึ่งเชื่อมโยงกับความเสมอภาค โดยเป็น
หลักประกันในการเข้าถึง การมีอยู่ และการดูแลให้เกิดภาวะสิทธิของบุคคลที่ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยส�าคัญ และส่งผล
กระทบต่อสารัตถะของสิทธินั้น ๆ ไม่ว่าจะมาด้วยเหตุแห่งอัตลักษณ์ทางเพศ เชื้อชาติ สัญชาติ ชาติพันธุ์ พื้นฐานทางสังคม
ภาษา การนับถือศาสนา การเมืองและความคิดเห็นทางการเมือง สถานะทางเศรษฐกิจ และอื่น ๆ
๑.๒ ความเป็นสากล (universality) คือ ความสามารถในการประยุกต์ใช้กับบุคคลทุกคน โดยไม่มีข้อจ�ากัดใด ๆ
บุคคลทุกคนสามารถใช้สิทธิของตนเองได้อย่างเต็มที่ โดยไม่มีเงื่อนไข หรือข้อจ�ากัดใด ๆ
๑.๓ การคงอยู่ของสิทธิแบบติดตัว และไม่สามารถถ่ายโอนได้ (inalienability) และไม่สามารถแบ่งแยกออกจากกันได้
(indivisibility) รวมถึงความเกื้อกูล (interdependency) และเชื่อมโยงเกี่ยวพันกัน (interrelated) ของสิทธิต่าง ๆ กล่าวคือ
คุณลักษณะของสิทธิในด้านต่าง ๆ ล้วนเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกันอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่สามารถแบ่งแยกออกจากกันได้
และมักจะมีผลกระทบต่อกันในกรณีที่มีการละเมิดสิทธิในด้านหนึ่งด้านใด กรอบการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชน
๗ มีสถานะเป็นทบวงช�านัญพิเศษแห่งสหประชาชาติ (specialized agency) โดยมีหน้าที่หลักในการส่งเสริมการปรับปรุงสภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงาน ผ่านการก�าหนด บทที่
ติดตาม และก�ากับมาตรฐานในด้านการจ้างงาน ค่าจ้าง ระยะเวลาการปฏิบัติงาน การประกันสังคม และอื่น ๆ ๑
รายงานผลการประเมินสถานการณ์ 43 ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๕๙

