Page 46 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2559
P. 46
ต้องให้ความส�าคัญในการประกอบการที่ต้องค�านึงถึงสิทธิมนุษยชนของชุมชน หรือกลุ่มคนที่เกี่ยวข้อง โดยป้องกันความเสี่ยง
และแก้ไขผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนที่อาจจะเกิดจากการประกอบธุรกิจ โดยมีหลักการส�าคัญตามกรอบขององค์การ
๘
สหประชาชาติ ซึ่งรัฐและภาคธุรกิจมีหน้าที่ใน ๓ ด้าน คือ
หน้าที่ในการเคารพ (Respect) หน้าที่ในการเยียวยา (Remedy)
การประกอบการธุรกิจ (ของภาคธุรกิจและรัฐ การประกอบการธุรกิจ (ของภาคธุรกิจและรัฐ
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน หรือโครงการ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน หรือโครงการ
พัฒนาร่วม อาทิ รัฐวิสาหกิจ) ต้องเคารพสิทธิมนุษยชน พัฒนาร่วม อาทิ รัฐวิสาหกิจ) ซึ่งส่งผลกระทบ
ของประชาชนทุกคนที่เกี่ยวข้อง ด้านสิทธิมนุษยชนใด ๆ จะต้องมีการเยียวยา
ผู้ได้รับผลกระทบโดยทันที รวดเร็ว และมี
หน้าที่ในการคุ้มครอง (Protect) ประสิทธิภาพ ทั้งโดยกระบวนการทางศาล
รัฐต้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของประชาชน และกระบวนการทางเลือกที่เป็นกลไก
ทุกคน นอกศาล
นอกจากนี้ ในส่วนของหลักการปฏิบัติด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย กสม. ยังให้ความส�าคัญกับการ
ติดตามผลการด�าเนินงานของรัฐบาลตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ในการผลักดันให้ประเทศไทย
มีมาตรการและแนวทางปฏิบัติอย่างจริงจังในการส่งเสริมให้เอกชนมีความรับผิดชอบต่อสังคมและเคารพหลักพื้นฐานด้าน
สิทธิมนุษยชนในการลงทุนทั้งที่เกิดในประเทศ รวมถึงการลงทุนสัญชาติไทยในต่างประเทศ ซึ่งเป็นไปตามข้อเสนอแนะ
๙
เชิงนโยบายของ กสม. และยุทธศาสตร์การส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของธุรกิจ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๕๘ - ๒๕๖๐)
ทั้งนี้ ในการจัดท�ารายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๕๙ ฉบับนี้ ได้ที่เสนอ
ข้อมูลที่เป็นกลาง ปราศจากอคติ หรือมีข้อกังขาเกี่ยวกับที่มาของข้อมูลให้มากที่สุด กสม. จึงใช้ข้อมูลปฐมภูมิที่ได้จากการปฏิบัติงาน
โดยตรงทั้งจากการติดตามตรวจสอบกรณีร้องเรียน การติดตามสอบถามหน่วยงานปฏิบัติ ทั้งภาครัฐ และเอกชน ตลอดจน
การปฏิบัติงานอื่น ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นส่วนส�าคัญ โดยตรวจสอบความถูกต้องและความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่เป็น
ข้อเท็จจริงจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ประกอบ น�ามาประเมินและวิเคราะห์ร่วมกับหลักการส�าคัญของกฎหมายสิทธิมนุษยชน
ระหว่างประเทศข้างต้น นอกจากนี้ กสม. ยังมีกลไก กระบวนการติดตาม เฝ้าระวัง รายงานและประเมินสถานการณ์ด้าน
สิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สอดคล้องกับบทบาทหน้าที่ของ NHRIs ตามหลักการปารีส รวมทั้งการพัฒนาระบบ
การด�าเนินงานภายในองค์กร การพัฒนาศักยภาพบุคลากรและระบบฐานข้อมูล เพื่อให้กลไกการจัดท�ารายงานการ
ประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนมีข้อมูล สถิติ และข้อเท็จจริงอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้มีอย่างมีประสิทธิภาพ
กรอบการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชน
๘ จาก รายงานสรุปการสัมมนาวิชาการระหว่างประเทศ “ธุรกิจและสิทธิมนุษยชน” เรื่อง “การเผยแพร่และการขับเคลื่อนหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชน
ของสหประชาชาติในประเทศไทย, โดย ส�านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ส�านักวิจัยและวิชาการ, วันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๐. บทที่
๙ รายงานผลการพิจารณาค�าร้อง ๑๑๒๐/๒๕๕๘ ลงวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ เรื่องสิทธิชุมชน กรณีโครงการท่าเรือน�้าลึกและเขตเศรษฐกิจทวาย ในสาธารณรัฐ ๑
แห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งประเทศไทยได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงการพัฒนา ละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวทวาย
รายงานผลการประเมินสถานการณ์ 45 ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๕๙

