Page 11 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 11

ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ



          เลือกปฏิบัติตามกฎหมายสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้ ยังมีกรณีการเลือกปฏิบัติที่ทับซ้อนกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนอื่น

          รวมทั้งยังมีกรณีการเลือกปฏิบัติในบริบทของกฎหมายอื่น ซึ่งอาจจ�าแนกสรุปได้ ๓ กรณีหลัก ดังนี้


                  กรณีแรก : กรณีการปฏิบัติที่อยู่ในขอบเขตและไม่อยู่ในขอบเขตของกฎหมายสิทธิมนุษยชน

                  การเลือกปฏิบัติที่อยู่ในขอบเขตและไม่อยู่ในขอบเขตของกฎหมายสิทธิมนุษยชน ซึ่งยังสามารถจ�าแนกออกเป็น
          ๕ กรณีย่อย ดังต่อไปนี้

                  (๑) การเลือกปฏิบัติในขอบเขตของกฎหมายสิทธิมนุษยชน กล่าวคือ การปฏิบัติที่แตกต่างนั้น เกี่ยวข้องกับ
          เหตุแห่งการเลือกปฏิบัติ เช่น เหตุแห่งความพิการ สภาพร่างกาย เป็นต้น
                  (๒) การปฏิบัติที่แตกต่างกัน  อันไม่อยู่ในขอบเขตกฎหมายสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับการห้ามเลือกปฏิบัติ  :

          กรณีจากค�าร้องต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  พบว่ามีหลายกรณีเกี่ยวข้องกับการกล่าวอ้างว่ามีการเลือก
          ปฏิบัติเนื่องจากการปฏิบัติที่แตกต่างกันแต่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติ

                  (๓) การปฏิบัติที่แตกต่างกัน อันไม่อยู่ในขอบเขตกฎหมายสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับการห้ามเลือกปฏิบัติ :
          กรณีจากค�าพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ  พบว่ามีหลายกรณีเกี่ยวข้องกับการกล่าวอ้างว่ามีการเลือกปฏิบัติเนื่องจากการ
          ปฏิบัติที่แตกต่างกันแต่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การอ้างว่ากฎระเบียบที่พิพาทนั้น

          ขัดต่อหลักความเท่าเทียมกัน โดยไม่ปรากฏความเกี่ยวข้องกับเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติตามกฎหมายสิทธิมนุษยชน
                  (๔) การปฏิบัติที่แตกต่างกัน  อันไม่อยู่ในขอบเขตกฎหมายสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับการห้ามเลือกปฏิบัติ :
          กรณีค�าวินิจฉัยคณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ คณะกรรมการกฤษฎีกา พบว่าค�าวินิจฉัยดังกล่าวมีขอบเขตที่กว้างกว่า

          เหตุแห่งการเลือกปฏิบัติตามกฎหมายสิทธิมนุษยชน ซึ่งสะท้อนแนวคิดการพิจารณา “การเลือกปฏิบัติ” บนพื้นฐานของ
          กฎหมายปกครอง
                  (๕) การปฏิบัติที่แตกต่างกัน  อันไม่อยู่ในขอบเขตกฎหมายสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับการห้ามเลือกปฏิบัติ  :

          กรณีข้อเท็จจริงจากการรับฟังความคิดเห็น / สัมภาษณ์ / ประชุมกลุ่มย่อย พบว่ามีหลายกรณีที่บุคคลเห็นว่าตนได้รับ
          การปฏิบัติที่แตกต่างกันกับบุคคลอื่น ก็จะอ้างว่า “ถูกเลือกปฏิบัติ” รวมไปถึงในขอบเขตที่กว้างกว่านั้น กล่าวคือ แม้แต่

          ในกรณีที่บุคคลเห็นว่าตน “ไมได้รับความเป็นธรรม” ก็มักมีการอ้างว่า “ถูกเลือกปฏิบัติ” ไปด้วย อย่างไรก็ตาม การ
          กล่าวอ้างดังกล่าว หากพิจารณาในกรอบของกฎหมายสิทธิมนุษยชนแล้ว อาจไม่อยู่ในขอบเขตของกฎหมายสิทธิมนุษยชน
          เช่น การรับสมัครงานโดยระบุเจาะจง “สถาบันการศึกษา” หรือการพิจารณารับบุคคลเข้าท�างานจาก “สถาบันการศึกษา”

          การที่ภาคเอกชนให้คุณหรือให้สิทธิพิเศษกับบุคคลโดยอาศัยคุณสมบัติหรือเงื่อนไขบางประการที่ไม่เกี่ยวข้องกับ
          เหตุแห่งการเลือกปฏิบัติ การบังคับใช้กฎหมายที่แตกต่างกันระหว่างบุคคลในข้อเท็จจริงเหมือนกันโดยไม่ปรากฎว่า

          เกี่ยวข้องกับเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติ เป็นต้น


                  กรณีที่สอง กรณีมีความคาบเกี่ยวระหว่างการเลือกปฏิบัติกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนอื่น

                  จากการศึกษาวิเคราะห์ค�าร้องและการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในกรอบของคณะกรรมการ
          สิทธิมนุษยชนแห่งชาตินั้น พบว่ามีหลายกรณีที่ผู้ร้องอ้างว่ามีการ “เลือกปฏิบัติ” เกิดขึ้น ซึ่งมักเป็นกรณีการน�าข้อเท็จจริง
          สองข้อเท็จจริงมาเปรียบเทียบกันว่ามีการปฏิบัติต่อข้อเท็จจริงดังกล่าวแตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาภายใต้

          กรอบของกฎหมายสิทธิมนุษยชนแล้วจะเห็นได้ว่า  ในหลายกรณีตามค�าร้องนั้น  การปฏิบัติแตกต่างกันดังกล่าวไม่มี
          ความเกี่ยวข้องกับ  “เหตุแห่งการเลือกปฏิบัติ”  ตามกฎหมายสิทธิมนุษยชน  หรืออาจพิจารณาว่าเป็นการอ้างเหตุที่
          กว้างกว่ากฎหมายสิทธิมนุษยชน  หรือเป็นกรณีของกฎเกณฑ์หรือการปฏิบัติที่เป็นกลาง  (Neutral)  ซึ่งมีผลเป็นการ

          ปฏิบัติหรือบังคับกับทุกคนเหมือนกัน ซึ่งอาจสรุปจ�าแนกได้ ๔ กรณีย่อย ดังนี้


                                                          10
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16