Page 8 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 8

กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ





                        งานวิจัยนี้จึงได้ศึกษาหลักการ  แนวคิด  ทฤษฎีเกี่ยวกับหลักความเสมอภาคและการห้ามเลือกปฏิบัติ  ในกรอบ
               ของกฎหมายสิทธิมนุษยชน  อันปรากฏจากกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ  กฎหมายสิทธิมนุษยชนระดับภูมิภาค
               และกฎหมายต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง  โดยน�ามาสร้างเป็นกรอบแนวคิดเพื่อการวิเคราะห์ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการเลือก

               ปฏิบัติ โดยมีปัจจัยพิจารณาหลัก ๒ ประการ คือ

                        ๑) เหตุแห่งการเลือกปฏิบัติ (Grounds of Discrimination, Protected Ground) การปฏิบัติที่

               แตกต่างกันจะจัดเป็นการเลือกปฏิบัติซึ่งขัดต่อหลักกฎหมายระหว่างประเทศ เมื่อการปฏิบัตินั้นเกี่ยวข้องกับ “เหตุแห่ง
               การเลือกปฏิบัติ” เมื่อพิจารณาหลักกฎหมายระหว่างประเทศพบว่า เหตุแห่งการเลือกปฏิบัติมีการระบุไว้ เช่น กติกา

               ระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ก�าหนดเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติครอบคลุม “เชื้อชาติ สีผิว
               เพศ  ภาษา  ศาสนา  ความคิดเห็นทางการเมืองหรือความคิดเห็นอื่นใด  ชาติหรือสังคมดั้งเดิม  ทรัพย์สิน  ก�าเนิด  หรือ
               สถานะอื่น” 1



                        ๒) มิติของการเลือกปฏิบัติ (Area of Discrimination, Area Covered) การปฏิบัติที่แตกต่างกัน

               อันเกี่ยวข้องกับเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติอาจเกี่ยวข้องกับประเด็นต่าง ๆ หรือเรียกได้ว่าเกิดขึ้นในมิติต่าง ๆ ของบุคคล
               ในการด�าเนินชีวิต เช่น การท�างาน การศึกษา การจ้างงาน บริการภาครัฐ การประกอบธุรกิจ การประกอบวิชาชีพ การ
               เป็นสมาชิกองค์กร สินค้าและบริการในภาคเอกชน การประชุมสัมมนา กิจกรรมสาธารณะ เป็นต้น จะเห็นได้ว่ามิติของ

               การเลือกปฏิบัติอาจมีความเกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน


                        นอกจากปัจจัยทั้งสองประการแล้ว  จากการศึกษากฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายต่างประเทศพบว่า

               ได้มีการก�าหนดหลักเกณฑ์ต่าง ๆ เพื่อพิจารณาว่าการปฏิบัตินั้นเป็นเพียงการปฏิบัติแตกต่างกันอันสามารถท�าได้
               หรือเป็นการเลือกปฏิบัติซึ่งขัดต่อกฎหมาย  โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวมีตัวอย่างเช่น  หลักขอบแห่งดุลพินิจ  (Margin  of
               Appreciation) การชั่งน�้าหนักกับผลประโยชน์อื่น มาตรการยืนยันสิทธิเชิงบวก (Affirmative Action) เป็นต้น ด้วย

               เหตุนี้ งานวิจัยนี้จึงน�าปัจจัยเกี่ยวกับเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติและมิติแห่งการเลือกปฏิบัติ ประกอบกับหลักเกณฑ์ดังกล่าว
               มาประกอบกันเป็นกรอบการวิเคราะห์ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติที่แตกต่างกัน (Distinction / Differentiation)

               เพื่อสามารถจ�าแนกว่ากรณีใดเป็นกรณีของการเลือกปฏิบัติตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนและกรณีใดไม่อยู่ในขอบเขต
               การเลือกปฏิบัติตามกฎหมายสิทธิมนุษยชน



                        นอกจากนี้ งานวิจัยฉบับนี้จะได้ศึกษาต่อไปว่า การเลือกปฏิบัติที่อยู่ในขอบเขตของกฎหมายสิทธิมนุษยชนนั้น
               ตามกฎหมายภายในของไทยที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มีขอบเขตครอบคลุมอย่างเหมาะสมหรือไม่ ประการใด โดยการศึกษา

               เปรียบเทียบกับกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ  และกฎหมายต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง  ในการศึกษาขอบเขต
               ความครอบคลุมดังกล่าว  ผู้วิจัยจะได้น�าประเด็นเฉพาะต่าง  ๆ  เกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติมาวิเคราะห์  เช่น  การเลือก
               ปฏิบัติในกรณีบริการภาครัฐ  ปัญหาขอบเขตของกฎหมายในการคุ้มครองผู้ถูกเลือกปฏิบัติในภาคเอกชน  การเลือกปฏิบัติ




                      1    From “Social identity, system justification, and social dominance: Commentary on Reicher, Jost et al.,
               and Sidanius et al.” by Rubin, M.; Hewstone, M.; et al. (2004).  Political Psychology 25 (6), p. 823–844





                                                              7
   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13