Page 66 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยแผนกลยุทธ์ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2562
P. 66

รายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Report)
               แผนกลยุทธ์ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2562


                              2.   ภาพลักษณ์ของธุรกิจมีความส าคัญเป็นอย่างยิ่งในการด าเนินธุรกิจในปัจจุบัน ภาคธุรกิจ

                                 จึงมีแรงจูงใจในการปฏิบัติตามมาตรฐานสิทธิมนุษยชนสากล
                              3.   ประเทศไทยนับเป็นศูนย์กลางของห่วงโซ่อุปทานระดับโลกของบริษัทข้ามชาติ ภาครัฐจึง

                                 จ าเป็นต้องใส่ใจในเรื่องของการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน

                              4.   ภาคธุรกิจส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลกับ กสม. ในระดับที่ดี
                              5.   กลไกการตรวจสอบการละเมิดสิทธิที่นอกเหนือจากภาครัฐจ านวนมาก และภาคธุรกิจ

                                 ภายใต้ห่วงโซ่อุปทานให้ความส าคัญกับประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน

                              6.   ภาครัฐให้ความส าคัญกับการปรับตัวในประเด็นธุรกิจและสิทธิมนุษยชนผ่านแผนการ
                                 ด าเนินการจัดท าแผนปฏิบัติการแห่งชาติ (NAP)

                              7.   หน่วยงานระหว่างประเทศเริ่มเข้ามาให้ความส าคัญกับประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน

                                 ในภาคธุรกิจผ่านการสร้างบรรทัดฐานสากลและหลักปฏิบัติต่างๆ ให้ไปปรับใช้
                              8.   บทบาทของภาคประชาสังคม/สื่อ มีบทบาทมากขึ้นในการกดดันให้ภาคธุรกิจด าเนินการ

                                 โดยเคารพมาตรฐานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน



                              อุปสรรค

                              1.   ความรู้ความเข้าใจที่จ ากัดของประชาชนและภาคธุรกิจในเรื่องขอบเขตอ านาจหน้าที่และ
                                 การปฏิบัติงานของ กสม.

                              2.   ประชาชนและภาคธุรกิจยังขาดความรู้และความเข้าใจในมาตรฐานสิทธิมนุษยชนสากล

                                 ต่างๆ ในภาคปฏิบัติ ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดขึ้นเพราะมาตรฐานเหล่านั้นยังเน้นไปที่การให้
                                 หลักการกว้างๆ มากกว่าการให้หลักการเชิงปฏิบัติ

                              3.   ภาคธุรกิจยังขาดการบูรณาการกระบวนการตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนเข้ากับระบบ

                                 ประเมินความเสี่ยงของบริษัท
                              4.   ขนบธรรมเนียมมีความแตกต่างกันในแต่ละสังคมส่งผลให้เกิดสิทธิต่างๆ ที่แตกต่างกันใน

                                 แต่ละสังคมด้วย แต่ละสังคมจึงควรหาแนวทางที่จะเป็นการสร้างประโยชน์และคุ้มครอง

                                 ร่วมกันต่อการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว
                              5.  ข้อมูลชี้แจงจากภาคธุรกิจยังไม่เพียงพอมากนัก

                              6.  การด าเนินธุรกิจในปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูงท าให้ต้องลดต้นทุนในการด าเนินธุรกิจ จึง

                                 อาจจะละเลยความเข้มงวดในการก ากับดูแลและการด าเนินธุรกิจที่ค านึงถึงสิทธิ
                                 มนุษยชน











                                                           2-42
   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70   71