Page 32 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ประจำปี 2558
P. 32
รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ปี ๒๕๕๘
หลักการปารีส
(Paris Principles)
หลักการปารีส (Paris Principles) ก�าหนดมาตรฐานบทบาทของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (National Human Rights
Institutions: NHRIs) ที่ส�าคัญไว้อย่างน้อย ๕ ด้าน ซึ่ง NHRIs ควรพิจารณาด�าเนินการ โดยในจ�านวนนี้มีบทบาทในการ
เฝ้าระวังสถานการณ์สิทธิมนุษยชน (Monitoring Function) ซึ่งครอบคลุมหน้าที่หลัก ๔ ส่วน ได้แก่ (๑) การเฝ้าระวัง
สถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศ (๒) การเฝ้าระวังปัญหาสิทธิมนุษยชนเฉพาะเรื่อง (๓) การเฝ้าระวังสถานที่กักกันเพื่อป้องกัน
มิให้มีการกระท�าทรมาน และเป็นไปตามมาตรฐานสิทธิมนุษยชน และ (๔) การเฝ้าระวังและติดตามการด�าเนินการของหน่วยงาน
ในประเทศตามข้อเสนอแนะทั้งจากกลไกตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน (Treaty-based) ซึ่งครอบคลุมกติกา
และอนุสัญญาต่าง ๆ ที่ประเทศไทยเป็นภาคี จ�านวน ๗ ฉบับ (จากทั้งหมด ๙ ฉบับ) และตามกลไกกฎบัตรสหประชาชาติ (Charter-based)
ซึ่งครอบคลุมทั้งผู้แทนพิเศษ (Special Representative) ผู้รายงานพิเศษ (Special Rapporteur) กลไกทบทวนสถานการณ์
สิทธิมนุษยชน (Universal Periodic Review : UPR) และอื่น ๆ โดยการปฏิบัติงานดังกล่าว NHRIs จะต้องค�านึงถึงการมี
ส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และองค์กรอื่น ๆ ทั้งในและต่างประเทศ และจะต้องอยู่บนพื้นฐานด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด
ซึ่ง NHRIs จะต้องรักษาสมดุลอย่างเหมาะสมตามหลักการปารีส ค�านึงถึงการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ และการสนองตอบต่อยุทธศาสตร์
และสถานการณ์ของประเทศเป็นส�าคัญ ๑
ทั้งนี้ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองการปกครองโดย รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๒๕๗
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม (๘) และพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
๒๕๕๗ และตามประกาศ คสช. ฉบับที่ ๕/๒๕๕๗ ให้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๑๕ (๖) ซึ่งก�าหนดให้ กสม. มีอ�านาจหน้าที่
แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ สิ้นสุดลงชั่วคราว ในการจัดท�ารายงานประจ�าปีเพื่อประเมินสถานการณ์ด้าน
เว้นหมวด ๒ พระมหากษัตริย์ และให้องค์กรอิสระและองค์กรอื่น สิทธิมนุษยชนภายในประเทศเสนอต่อรัฐสภาและคณะรัฐมนตรี
ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ พร้อมทั้งให้เปิดเผยต่อสาธารณชน การจัดท�ารายงานการประเมิน
ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป และประกาศ คสช. ฉบับที่ ๑๑/๒๕๕๗ สถานการณ์ถือเป็นการส่งเสริมให้สาธารณชนได้รับทราบถึง
ให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ สถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศว่า ในแต่ละปีมีเหตุการณ์
สิ้นสุดลง ยกเว้นหมวด ๒ และให้องค์กรอิสระ และองค์กรอื่น ที่ส�าคัญใดบ้างที่มีผลกระทบต่อสิทธิของประชาชนที่มีการ
ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ กฎหมายภายในอื่น ๆ พันธกรณี
ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ดังนั้น ในการจัดท�ารายงานการประเมิน ด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นภาคี มาตรฐานระหว่าง บทที่ ๑ กรอบการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชน
สถานการณ์สิทธิมนุษยชนประจ�าปีของประเทศไทย ในปี ๒๕๕๘ ประเทศที่เกี่ยวข้อง และค�ามั่นสัญญาต่าง ๆ ที่รัฐบาลไทย
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) จึงถือเป็น ได้ให้ไว้ต่อประชาคมระหว่างประเทศ ทั้งในด้านที่เป็นความ
การปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจส่วนหนึ่งที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ก้าวหน้าและความถดถอย
แห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ มาตรา ๔
๑ “หลักการว่าด้วยสถานะและหน้าที่ของสถาบันแห่งชาติเพื่อการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน” (Principle relating to the Status and national institution for
protection and promotion of human rights) หรือ “หลักการปารีส” (Paris Principles) เป็นบทบัญญัติที่ก�าหนดรูปแบบ ตลอดจนอ�านาจหน้าที่ องค์ประกอบและแนวทาง
การด�าเนินงานของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หลักการดังกล่าวเกิดขึ้นจากการประชุมทางวิชาการที่กรุงปารีส ในปี ๒๕๓๔ (๑๙๙๑) และได้รับการรับรองโดยที่ประชุมสมัชชาใหญ่
แห่งสหประชาชาติ (UN General Assembly) ในปี ๒๕๓๖ (๑๙๙๓) หลังจากการรับรองปฏิญญาเวียนนาและแผนปฏิบัติการด้านสิทธิมนุษยชน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
<www.nhrc.or.th/Human-Rights-Knowledge/International-Human-Rights-Affairs/Paris-Principles.aspx> (เข้าดู ณ วันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๙)
2