Page 170 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ประจำปี 2558
P. 170
รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ปี ๒๕๕๘
ส่วนค่าดัชนีความไม่เสมอภาคหญิงชาย (Gender Inequality โดยผู้ชายอันเป็นสิ่งส�าคัญที่ขัดขวางความก้าวหน้าของผู้หญิง
Index - GII) ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนความไม่เท่าเทียมกันระหว่างหญิง ซึ่งสถานการณ์ความรุนแรงต่อผู้หญิงที่เกิดขึ้นปี๒๕๕๘
และชายของแต่ละประเทศ พบว่า ประเทศไทยมีค่าดัชนีดังกล่าว เมื่อพิจารณาจากสถิติความรุนแรงที่ผู้หญิงเป็นผู้ถูกกระท�า
เท่ากับ ๐.๓๘๐ โดยมีค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับรายงานฯ ปี ๒๕๕๗ พบว่าเพิ่มจ�านวนขึ้นในทุกประเภทความรุนแรง เมื่อเทียบจาก
๒๒๑
ซึ่งที่มีค่าเท่ากับ ๐.๓๖๔ หมายถึง ประเทศไทยมีความไม่เท่า ปี ๒๕๕๗
เทียมระหว่างหญิงและชายลดต�่าลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อย่างไร จากสถานการณ์ของผู้หญิงที่เกิดขึ้นในปี ๒๕๕๘ ดังกล่าวข้างต้น บทที่ ๕ สถานการณ์สิทธิมนุษยชนของกลุ่มเปราะบาง
ก็ตาม เมื่อพิจารณาค่าตัวชี้วัดย่อยใน ๓ ด้าน คือ ด้านอนามัยเจริญ จะเห็นว่าผู้หญิงยังคงมีสถานการณ์ที่ยังคงมีความเหลื่อมล�้า
พันธุ์ ด้านการเสริมพลังอ�านาจ และด้านตลาดแรงงาน จะพบว่าค่า หรือเกิดความไม่เท่าเทียมกับผู้ชายในหลายประเด็น อาทิ
ของตัวชี้วัดย่อยในแต่ละด้านยังคงแสดงให้เห็นว่า ยังมีความไม่เท่า การมีส่วนร่วมและโอกาสในการเข้าถึงโอกาสทางการเมือง
เทียมระหว่างหญิงและชายในประเทศไทย โดยเฉพาะค่าตัวชี้วัดย่อย ทางเศรษฐกิจ และความรุนแรงที่ยังคงเกิดขึ้นกับผู้หญิง
ในด้านตลาดแรงงาน ซึ่งอัตราการมีส่วนร่วมในก�าลังแรงงาน ของสังคมไทย ซึ่งปัญหาเหล่านี้ประเทศไทยในฐานะรัฐภาคี
(labour force participation rate) ของผู้ชายมีสัดส่วนที่สูงกว่า ของอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุก
ผู้หญิง (ชาย = ๘๐.๗ หญิง = ๖๔.๓) รูปแบบ รวมถึงการรับมาซึ่งข้อเสนอแนะจากกลไกระหว่าง
การเสริมสร้างพลังอ�านาจของผู้หญิง สถานการณ์ ประเทศ จึงมีพันธสัญญาหรือข้อผูกพันในการด�าเนินการใด ๆ
ในปี ๒๕๕๘ เมื่อพิจารณาผู้หญิงที่ด�ารงต�าแหน่งในรัฐสภา เพื่อให้สิทธิที่พึงมีแก่ผู้หญิงเพื่อขจัดการเลือกปฏิบัติต่อ
แห่งชาติ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสากลที่สะท้อนให้เห็นถึงอ�านาจและ ผู้หญิง ซึ่งเป็นการละเมิดหลักการความเสมอภาคและ
การตัดสินใจของผู้หญิงของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยในส่วนของ การเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
ประเทศไทยค่าตัวชี้วัดดังกล่าวไม่เปลี่ยนแปลงหากเทียบกับ ดังนั้น รัฐซึ่งมีหน้าที่ในการเคารพ (Obligation to Respect)
ปีที่ผ่านมา (ปี ๒๕๕๗) เนื่องจากมีค่าคงที่อยู่ที่ ร้อยละ ๖.๑ แต่อย่างไร หน้าที่ในการคุ้มครอง (Obligation to Protect) และหน้าที่ในการ
ก็ตาม เมื่อพิจารณาสัดส่วนดังกล่าวเปรียบเทียบกับประเทศต่าง ๆ ท�าให้สิทธิเกิดผลในทางปฏิบัติ ในการจัดท�าหรืออ�านวยการให้
เท่าโลก พบว่า ประเทศไทยมีสัดส่วนของผู้หญิงที่ด�ารงต�าแหน่ง เกิดขึ้นจริง (Obligation to Fulfill) จึงควรด�าเนินการส่งเสริม
ในรัฐสภาแห่งชาติในสัดส่วนที่น้อยมาก โดยอยู่ในล�าดับที่ ๑๗๒ ให้เกิดความเสมอภาคด้วยการออกมาตรการที่เหมาะสม
จากทั้งหมด ๑๘๕ ล�าดับ ของประเทศทั้งหมด ๑๙๑ ประเทศ และมาตรการพิเศษชั่วคราว การเสริมสร้างการมีส่วนร่วม
ทั่วโลก อีกทั้งเมื่อพิจารณาตั้งแต่ ปี ๒๕๔๙ – ๒๕๕๘ จะเห็นว่า ทางการเมืองของผู้หญิง เช่น การกระตุ้นให้พรรคการเมือง
๒๒๒
ปี ๒๕๕๗ - ๒๕๕๘ ประเทศไทยมีค่าสัดส่วนผู้หญิงที่ด�ารงต�าแหน่ง ใช้ระบบสัดส่วน จัดการฝึกอบรมและสร้างความตระหนักเกี่ยว
ในรัฐสภาแห่งชาติ น้อยที่สุดในรอบ ๑๐ ปี กับความส�าคัญของผู้หญิงในการตัดสินใจทุกระดับ และในเวที
ความรุนแรงต่อผู้หญิง ปัญหาความรุนแรงต่อผู้หญิงสะท้อน นานาชาติ การส่งเสริมการออกนโยบายและก�าหนดกลไกและ
ให้เห็นถึงความสัมพันธ์เชิงอ�านาจที่ไม่เท่าเทียมระหว่างผู้หญิง มาตรการในการแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพที่จะท�าให้ผู้หญิง
และผู้ชาย ซึ่งน�าไปสู่ความครอบง�าและการเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิง ที่ถูกละเมิดสามารถเข้าถึงความเป็นธรรมได้
๒๒๑ หนังสือกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ พม ๐๒๑๐/๕๑๑๘ ลงวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๕๙.
๒๒๒ United Nations Development Fund for Women. (UNIFEM CEDAW SEAP-Thailand). ข้อแสนอแนะของคณะกรรมการ CEDAW (CEDAW Committee’s Concluding
Comments) ๒๐ มกราคม ๒๕๔๙. พันธสัญญาที่รัฐต้องด�าเนินการ
140