Page 119 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ประจำปี 2558
P. 119
รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยปี ๒๕๕๘
ทั้งนี้ เมื่อจ�าแนกรายละเอียดของลักษณะ (ขนาด) เเละสถานที่ตั้ง (ความห่างไกล ทุรกันดาร และการบริหารจัดการ) ของโรงเรียน จากข้อมูล
ตัวเลขพบว่า มีโรงเรียนอนุบาล-ประถมขนาดเล็ก ประมาณ ๑,๐๐๐ แห่ง ที่มีจ�านวนครูต�่ากว่าเกณฑ์ โดยมีจ�านวนครูที่ยังจ�าเป็นต้องได้รับ
การจัดสรรเพิ่มรวมกัน ๑,๒๐๐ คน ในขณะที่มีโรงเรียนอีก ๘,๕๐๐ แห่ง มีจ�านวนครูมากกว่าเกณฑ์ โดยรวมกันเป็น ๑๕,๐๐๐ คน ดังนั้น
ภาวะการณ์ขาดแคลนครูจึงกระจุกตัวอยู่ในโรงเรียนขนาดกลาง โดยมีโรงเรียนขนาดกลางจ�านวน ๒,๕๐๐ แห่ง ขาดแคลนครูรวมกัน ๔,๐๐๐ คน
นอกจากนั้น ตามลักษณะการจัดการศึกษาที่แท้จริง แม้โรงเรียนขนาดเล็กจะมีจ�านวนนักเรียนน้อย แต่มีจ�านวนห้องเรียนโดยเฉลี่ย ๘ ห้อง
(ทั้งแบบแยก และคละชั้นเรียน) ต่อโรงเรียน ๑ แห่ง โดยมีครูเฉลี่ย ๕ คนต่อ ๑ โรงเรียน จึงท�าให้เกิดภาวะครูไม่ครบชั้นเรียน หรือครู ๑ คน
ต้องดูแลมากกว่า ๑ ห้องเรียน โดยเมื่อลองปรับใช้เกณฑ์ตามสภาพความเป็นจริงที่ว่าโรงเรียนควรมีครูอย่างน้อย ๑ คนต่อ ๑ ห้องเรียนแล้ว
ก็พบว่า โรงเรียนอนุบาล-ประถมขนาดเล็ก ๑๒,๐๐๐ แห่ง ขาดแคลนครูรวมกันถึง ๔๓,๐๐๐ คน โดยสรุปแล้วในปี ๒๕๕๗ การศึกษาไทยทั้งระบบ
ยังมีความต้องการบุคลากรครูอีก ๖,๐๐๐ กว่าคน ในขณะที่หากพิจารณาเฉพาะในกลุ่มโรงเรียนที่ขาดแคลนครู พบว่า มีความขาดแคลน
มากถึง ๓๐,๐๐๐ กว่าคน นั่นท�าให้มีโรงเรียนที่ขาดแคลนครู เพิ่มขึ้นถึง ๕ เท่า ในขณะที่หากพิจารณาโรงเรียนอนุบาล-ประถมขนาดเล็กต้องการครู
ที่สามารถสอนได้หลากหลายวิชาหรือจบวิชาเอกประถม แต่ปัจจุบันกลับมีครู ๑๐,๐๐๐ คน ที่ส�าเร็จการศึกษาด้านศึกษาศาสตร์ ในวิชาเอกอื่น
สอนวิชาประถม สอนทุกวิชา ในกลุ่มโรงเรียนอนุบาล-ประถมขนาดเล็ก ขณะที่โรงเรียนอีกกลุ่มกลับมีครูจบวิชาเอกประถม ๑๔,๐๐๐ คน
ท�าการสอนเพียงวิชาเดียวหรือบางวิชาเท่านั้น สิ่งเหล่านี้ท�าให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการจัดสรรบุคลากรครู ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิทธิ
ในการศึกษา ทั้งในส่วนของการเข้าถึงสิทธิทางการศึกษา การจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ และการจัดการศึกษาที่ตอบสนอง หรือสอดคล้อง
กับวิถีชีวิตวัฒนธรรมของชุมชนในพื้นที่ต่าง ๆ
๔ การประเมินสถานการณ์
สถานการณ์การศึกษาไทยในปัจจุบัน พบว่า ปัญหาด้านสิทธิทางการศึกษาไม่ว่าจะเป็นการได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพและความไม่เท่าเทียมกัน
มิได้เกิดจากการขาดแคลนทรัพยากร ซึ่งจะเห็นได้จากที่ประเทศไทยทุ่มงบประมาณด้านการศึกษาเป็นอันดับต้น ๆ ของงบประมาณ
รายจ่ายประจ�าปี ตลอดช่วงระยะเวลา ๑๐ ปีที่ผ่านมา แต่ปัญหาอยู่ที่ความด้อยประสิทธิภาพของการใช้ทรัพยากร ๑๒๔
นอกจากนั้น ยังพบว่าความเหลื่อมล�้าทางเศรษฐกิจเป็นปัจจัยส�าคัญ ประชากรในประเทศไทย แม้ว่ารัฐบาลไทยได้จัดสรรงบประมาณ
๑๒๕
ที่ส่งผลกระทบต่อความเหลื่อมล�้าของคุณภาพในการศึกษาของเด็ก ด้านการศึกษาจ�านวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละปี แต่ถึงอย่างไร
ที่อยู่ในประเทศไทย ดังจะเห็นว่า เด็กที่มาจากกรุงเทพมหานคร ก็ตาม ระบบการศึกษาของประเทศยังไม่สามารถตอบสนองต่อ
จะมีรายได้ครอบครัวเฉลี่ยสูงกว่าภาคอื่น มักจะมีผลคะแนนสอบ ความหลากหลายของกลุ่มประชากรที่มีบริบททางสังคม เศรษฐกิจ
O-Net สูงกว่าเด็กที่มาจากครอบครัวยากจนซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ และวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มชายขอบ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยิ่งไปกว่านั้น จากข้อมูลเด็กที่ไม่ได้ และกลุ่มอื่น ๆ ในพื้นที่ห่างไกล ดังนั้น รัฐบาลควรน�าระบบ
ศึกษาในระบบพบว่า ร้อยละ ๙๓.๗๓ เป็นเด็กยากจน ซึ่งขาดโอกาส การจัดการศึกษาบนฐานคิดสิทธิมนุษยชน (Human Rights-based
ทางการศึกษา อีกทั้ง ระบบการบริหารจัดการศึกษาที่ไม่กระจาย Approach) มาปรับใช้ เพื่อสร้างการยอมรับความเสมอภาค
อ�านาจหรือการจ�ากัดการบริหารจัดการในท้องถิ่นต่าง ๆ และความเท่าเทียม การไม่เลือกปฏิบัติ ตลอดจนการเคารพ
ก็เป็นปัญหาและอุปสรรคต่อ “คุณภาพ” และ “การเข้าถึง” สิทธิมนุษยชนของบุคคลที่แตกต่างหลากหลาย อีกทั้งยังควร
การศึกษาโดยระบบการศึกษาที่ก�าหนดจากส่วนกลางมิได้ กระจายอ�านาจ พร้อมกับการออกแบบและจัดการศึกษาให้แก่
สนองตอบต่อความต้องการและบริบททางวัฒนธรรมที่แตกต่าง ประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ได้มีส่วนร่วมอย่างเต็มที่
หลากหลาย ส่งผลกระทบภาพรวมต่อการแข่งขันทางการศึกษาของ
๑๒๔ ดร.ตรีนุช ไพชยนต์วิจิตร, เปิดผลวิจัยทีดีอาร์ไอ ชี้การศึกษาไทยตกต�่า เด็กอ่อน ๓ วิชาหลัก “อังกฤษ-เลข-วิทย์”, ดูรายละเอียดได้ที่ <www.matichon.co.th/news_detail.php?news-
id=1421075189
๑๒๕ ข้อมูลจากธนาคารโลก
89