Page 166 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 166

กลุ่มบุคคลที่ก่อให้เกิดการสูญเสียหรือความเสียหายจะกระท�าการร่วมกันโดย
                    “ใช้ความรุนแรง” เป็นหลัก ไม่ว่าจะโดย “ใช้ก�าลังประทุษร้าย” ผู้เสียหายหรือญาติของผู้เสียหาย และโดย “ใช้อาวุธ” โดยเฉพาะ

                    อย่างยิ่ง  อาวุธปืนในการด�าเนินการ  โดยแบ่งหน้าที่กันท�าโดยชัดแจ้ง  บางคนในกลุ่มบุคคลนั้นรับหน้าที่ขับรถยนต์เพื่อส่งบุคคลอื่น
                    ในกลุ่มเดียวกันมาพบผู้เสียหายหรือญาติของผู้เสียหาย และเพื่อรับกลุ่มบุคคลนั้นกลับหรือหนีออกไปภายหลังการด�าเนินการกับ
                    ผู้เสียหายตามเป้าหมายแล้ว บางคนรับหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่หรือสังเกตการณ์ บางคนเป็นผู้ท�าการประทุษร้ายร่างกายผู้เสียหาย

                    หรือญาติของผู้เสียหายโดยใช้ก�าลัง และใช้อาวุธปืนที่ติดตัวมาสังหารผู้เสียหาย ตลอดจนใช้ก�าลังหรือใช้อาวุธข่มขู่ญาติของผู้เสียหาย
                    ตลอดจนบุคคลทั่วไปให้เกิดความหวาดกลัวในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตน  จนส่งผลให้ญาติของผู้เสียหายไม่สามารถ

                    ที่จะด�ารงชีวิตอยู่ ณ ภูมิล�าเนาปกติของตนได้ และจ�าต้องย้ายถิ่นฐานไปตั้งรกรากที่อื่น เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของ
                    ตนเองและครอบครัว
                                                   (๒.๒) การกระท�าต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของประชากรพลเรือน

                                                         การประทุษร้ายโดยใช้ก�าลังและใช้อาวุธปืนของกลุ่มบุคคลผู้ก่อให้เกิดการ
                    สูญเสียในชีวิต  ร่างกาย  และทรัพย์สินของผู้เสียหายซึ่งเป็นประชากรพลเรือนอย่างกว้างขวาง  ครอบคลุมจังหวัดต่างๆ  ทั่วทุกภูมิภาค
                    ของประเทศไทย และเป็นไปอย่างต่อเนื่องในระหว่างระยะเวลาสามเดือนของการปฏิบัติการตามนโยบายของรัฐบาล การด�าเนินการ

                    เหล่านี้จึงเป็นการด�าเนินการที่มีประชากรพลเรือนเป็นเป้าหมาย  กล่าวคือ  การใช้ก�าลังประทุษร้ายและใช้อาวุธปืนในการด�าเนินการ
                    ก่อให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิตและร่างกายของประชากรพลเรือนเป็นจ�านวนหลายพันคน  และการยึดทรัพย์สินของประชากรพลเรือน
                    เป็นจ�านวนมหาศาล  โดยมีการฆาตกรรมและการยึดทรัพย์สินของประชากรพลเรือนซ�้าแล้วซ�้าเล่า  เป็นการกระท�าที่  “มีเป้าหมาย

                    ล่วงหน้า”  โดยชัดแจ้ง  กล่าวคือ  การกระท�าให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิต  ร่างกาย  หรือทรัพย์สินของผู้เสียหายเป็นส�าคัญ  โดยเฉพาะ
                    อย่างยิ่ง การกระท�าต่อผู้เสียหาย กลุ่มบุคคลผู้กระท�าการประทุษร้าย กระท�าการโดย “มุ่งประสงค์ต่อชีวิต” ของผู้เสียหายเป็นหลัก

                    กล่าวคือ การกระท�าให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายหรือการฆาตกรรมผู้เสียหาย หรือการอุ้มหายหรือการท�าให้ผู้เสียหายสูญหายไป
                    ดังจะเห็นได้จากเรื่องร้องเรียนต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น ผู้เสียหายในเรื่องร้องเรียนทุกเรื่องถูกกระท�าให้ถึงแก่ความตาย อันส่งผลให้
                    จ�านวนคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลา  ๓  เดือนของการปฏิบัติการของรัฐและองค์กรของรัฐเพื่อเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล

                    ในการท�าสงครามกับยาเสพติด มีจ�านวนสูงผิดปกติ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนและหลังการด�าเนินการ
                    ตามนโยบายดังกล่าวของรัฐบาล  ในส่วนที่เกี่ยวกับญาติของผู้เสียหาย  ผู้กระท�าการประทุษร้ายมักจะกระท�าการต่อร่างกายของบุคคล

                    ในครอบครัวหรือญาติของผู้เสียหาย หากแต่ “ไม่ประสงค์ต่อชีวิต” เช่น การจับมัดมือไพล่หลัง การใช้ผ้ามัดปิดปาก การท�าร้ายร่างกาย
                    การข่มขู่หรือขับไล่ให้หนีไปจากสถานที่เกิดเหตุ
                                                         นอกจากนี้ ดังที่ปรากฏในเรื่องร้องเรียนหลายๆ เรื่อง การประทุษร้ายโดยใช้ก�าลัง

                    หรือใช้อาวุธปืนของกลุ่มบุคคลผู้กระท�าการ  ยังขยายไปถึงการยึดทรัพย์สินต่างๆ  ของผู้เสียหาย  (และครอบครัวหรือญาติของผู้เสียหาย)
                    อีกด้วย อีกทั้งในเรื่องร้องเรียนหลายๆ เรื่อง การด�าเนินการยึดทรัพย์สินของผู้เสียหายหรือญาติของผู้เสียหายเป็นการกระท�าของ
                    เจ้าหน้าที่ต�ารวจในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง หากแต่มิได้เป็นการปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยมาตรการปราบปรามยาเสพติด

                    แต่ประการใด
                                                (๓) เป็นการด�าเนินการที่กระท�าเป็นกระบวนการ เป็นระบบและด�าเนินการเป็นขั้นตอน

                                                   การก่อความรุนแรงด้วยการประทุษร้ายโดยใช้ก�าลังหรือใช้อาวุธปืนในการด�าเนินการ
                    อันน�ามาซึ่งการสูญเสียชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของผู้เสียหายซึ่งเป็นประชากรพลเรือนอย่างกว้างขวางที่เกิดขึ้นตามเรื่องร้องเรียน

                    ต่างๆ ดังกล่าว มีลักษณะพิเศษอีกประการหนึ่ง  คือ  เป็นการด�าเนินการที่กระท�าเป็นกระบวนการ  เป็นระบบ  และด�าเนินการเป็น
                    ขั้นเป็นตอน
                                                   การกระท�าการที่เกิดขึ้นตามเรื่องร้องเรียนทั้งหลาย “มิใช่” การกระท�าที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ

                    (random)  หรือเป็นเอกเทศแยกต่างหากจากกัน  (isolated)  หรือไม่มีความเกี่ยวข้องกัน  (separated)  แต่อย่างใด  ในทางตรงกันข้าม
                    การกระท�าต่างๆ  ดังกล่าวล้วนเป็นการด�าเนินการที่  “มีการก�าหนดขึ้น”  ตาม  “แผนการด�าเนินการ”  เป็นการกระท�าอย่างเป็น
                    กระบวนการหรือเป็นระบบ และเป็นขั้นเป็นตอนอย่างเห็นได้ชัด
                                                                                                                   145
                                    ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖
   161   162   163   164   165   166   167   168   169   170   171