Page 139 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 139

“กฎหมายเด็ดขาด”  (jus  cogens)  ซึ่งถือได้ว่าเป็นกฎหมายจารีตประเพณีระหว่างประเทศ  ผู้กระท�าความผิดจึงมิอาจที่จะยกเรื่อง
               อายุความหรือเหตุนิรโทษกรรมขึ้นกล่าวอ้างเพื่อให้ตนเองหลุดพ้นจากความรับผิด  เพื่อยกเว้นกฎหมายเด็ดขาดแต่อย่างใด  ด้วยเหตุนี้

               ธรรมนูญกรุงโรมฯ จึงได้รับรองหลักการไม่ใช้บังคับอายุความกับอาชญากรรมระหว่างประเทศที่อยู่ในเขตอ�านาจของศาลอาญาระหว่าง
                                         381
               ประเทศ โดยก�าหนดไว้ในข้อ ๒๙  ความว่า “อาชญากรรมภายในเขตอ�านาจของศาลอาญาระหว่างประเทศไม่อยู่ภายใต้บังคับของ
               อายุความ”

                                     ๓.๒  หลักการเสริมเขตอ�านาจศาลภายในของรัฐภาคีโดยศาลอาญาระหว่างประเทศ  (Principle  of
               Complementarity)

                                          หลักการเสริมเขตอ�านาจศาลภายในของรัฐโดยศาลอาญาระหว่างประเทศสะท้อนให้เห็นผ่าน
               ความในวรรคสามแห่งอารัมภบท  (Preamble)  ของธรรมนูญกรุงโรมฯ  ดังความตอนหนึ่งซึ่งระบุว่า  “ยืนยันว่าอาชญากรรมที่ร้ายแรง
               ที่สุดซึ่งอยู่ในความห่วงใยของประชาคมระหว่างประเทศโดยรวมจะต้องไม่ถูกปล่อยไปโดยมิได้รับการลงโทษ และการฟ้องร้อง

               ด�าเนินคดีอย่างมีประสิทธิภาพต้องได้รับการประกันโดยการใช้มาตรการระดับชาติและโดยการเสริมสร้างความร่วมมือ
               ระหว่างประเทศ” 382   และความอีกตอนหนึ่งในวรรคสิบแห่งอารัมภบทซึ่งระบุว่า  “ย�้าว่าศาลอาญาระหว่างประเทศที่จัดตั้งขึ้นภายใต้
               ธรรมนูญศาลฯ นี้ต้องเสริมเขตอ�านาจในทางอาญาของรัฐ” 383  หลักดังกล่าวมีเจตนารมณ์เพื่อให้ศาลอาญาระหว่างประเทศ

               (International  Criminal  Court)  เป็น  “กลไกเสริม”  กระบวนการยุติธรรมทางอาญาภายในของรัฐภาคี  ในการด�าเนินคดีแก่บุคคล
               ที่ประกอบอาชญากรรมร้ายแรงระหว่างประเทศที่ส่งผลกระทบต่อประชาคมระหว่างประเทศ  ในกรณีที่รัฐภาคีไม่สามารถด�าเนินคดีนั้นได้
               หรือด�าเนินคดีนั้นอย่างไม่มีประสิทธิภาพ โดยนัยดังกล่าว ศาลอาญาระหว่างประเทศจึงอาจปฏิบัติหน้าที่และใช้อ�านาจเหนือดินแดน

                                                              384
               ของรัฐภาคีและเหนือดินแดนของรัฐอื่นใดตามความตกลงพิเศษ   ทั้งนี้  ไม่ว่ากระบวนการยุติธรรมตามระบบกฎหมายภายในของรัฐ
               หรือกระบวนการยุติธรรมของศาลอาญาระหว่างประเทศ ล้วนแต่เป็นกลไกที่มุ่งประสงค์ที่จะรักษาไว้ซึ่งความยุติธรรมและความ

               สงบสุขของประชาคมระหว่างประเทศ การก�าหนดหลักการดังกล่าวยังแก้ไขปัญหาหลายประการให้แก่ศาลอาญาระหว่างประเทศได้
               ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจากการทับซ้อนของเขตอ�านาจศาลทางอาญา การด�าเนินคดีและการบังคับคดี การลดค่าใช้จ่ายด้านงบประมาณ
               ลดปัญหาด้านภาษา  นอกจากจะใช้ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขตอ�านาจศาลอาญาระหว่างประเทศกับเขตอ�านาจศาลภายในของรัฐ

               หลักการนี้ยังใช้บังคับในเรื่องอื่นๆ  ด้วย  เช่น  การรับคดีเข้าสู่ศาล  การส่งผู้ร้ายข้ามแดน  และการให้ความร่วมมือทางอาญาระหว่าง
               ประเทศด้วย

                                          อย่างไรก็ตาม  การมีเขตอ�านาจของศาลอาญาระหว่างประเทศอยู่ภายใต้เงื่อนไขบางประการ  อีกทั้ง
               มิใช่ว่าศาลอาญาระหว่างประเทศจะใช้เขตอ�านาจและรับคดีไว้พิจารณาในทุกกรณี
                                          ในส่วนนี้จะได้กล่าวถึงข้อพิจารณาเกี่ยวกับการใช้เขตอ�านาจของศาลอาญาระหว่างประเทศ ซึ่ง

               ประกอบด้วย  ๓.๒.๑  หลักการมีเขตอ�านาจของศาลอาญาระหว่างประเทศ  และ  ๓.๒.๒  กรณีที่ศาลไม่ใช้เขตอ�านาจและไม่รับคดี
               ไว้พิจารณา








                       381
                          Rome Statute, Article 29 Non-applicability of statute of limitations.
                       382
                          Rome Statute, Preamble, paragraph 3: “Affirming that the most serious crimes of concern to the international community
               as a whole must not go unpunished and that their effective prosectution must be ensured by taking measures at the national level and
               by enhancing international cooperation.”
                       383
                         Rome Statute, Preamble, paragraph 10: “Emphasizing that the International Criminal Court established under this Statute
               shall be complementary to national criminal jurisdictions.”
                       384
                          Rome Statute, Article 4 Legal status and powers of the Court, paragraph 2.


               118
               ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖
   134   135   136   137   138   139   140   141   142   143   144