Page 67 - รายงานวิจัย เรื่อง ทางเลือกเชิงนโยบายการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยในค่ายพักพิงชั่วคราว
P. 67
บทที่ ๓
๗. การฝึกอบรม ทักษะอาชีพ
ค่ายผู้ลี้ภัยทุกแห่งจะมีหลักสูตรการฝึกอบรมระยะสั้น ส�าหรับผู้ที่ไม่ได้เรียนในหลักสูตรปกติ ทั้งที่เป็นเยาวชนและ
สูงอายุ แหล่งทุนที่สนับสนุนก็คือองค์กรระหว่างประเทศ เช่น Refugee Care Thailand (ZOA), ADRA, TBC บางค่ายเช่น ค่ายผู้ลี้ภัย
บ้านนุโพ จะมีชาวบ้านทั่วไปที่อาศัยอยู่นอกค่ายผู้ลี้ภัยมาเข้าร่วมการอบรมในหลักสูตรต่างๆ ด้วย โดยมีหลักสูตร การจัดการโรงแรม
การซ่อมมอเตอร์ไซค์ ช่างเสริมสวย คอมพิวเตอร์ เบเกอรี่ ช่างก่อสร้าง เย็บผ้า การท�าธุรกิจขนาดเล็ก เช่น ร้านค้า ศิลปะ ซึ่งหลักสูตร
เหล่านี้ช่วยสร้างเสริมทักษะอาชีพหากต้องกลับสู่ประเทศต้นทาง บางหลักสูตรได้รับความสนใจน้อย เช่น การจัดการโรงแรม ผู้ลี้ภัย
บอกว่า พวกเขาจินตนาการไม่ออกว่า “โรงแรม” มีลักษณะอย่างไร ในชีวิตก็ไม่เคยพบเห็นโรงแรมมาก่อน หลักสูตรก่อสร้าง เป็นหลักสูตร
ที่ไม่ค่อยนิยมเรียนกัน เพราะผู้ลี้ภัยไม่เห็นโอกาสในการน�าความรู้ไปใช้ประกอบอาชีพได้เนื่องจากไม่สามารถเดินทางออกนอกค่ายผู้ลี้ภัย
ได้เพื่อไปรับจ้างได้ และชาวบ้านทั่วไปต่างมีทักษะการสร้างบ้านอยู่แล้ว
๘. สุขภาพและความเจ็บป่วย
การรักษาพยาบาลในค่ายผู้ลี้ภัยนั้น ปฏิบัติตามแนวการแพทย์แผนปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม พบว่าในบางกลุ่มที่นับถือ
แบบดั้งเดิมก็ใช้พิธีกรรมในการรักษา แต่พบว่าหมอพื้นบ้านก็มีจ�านวนน้อยลง ไม่มีใครสืบทอดความรู้ รวมทั้งสมุนไพรที่ใช้ก็หายาก
เนื่องจากข้อจ�ากัดด้านที่อยู่อาศัยและการเข้าถึงสมุนไพร
การรักษาแผนปัจจุบัน ได้รับความช่วยเหลือจาก AMI, IRC, AUSAIDS รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุขไทยด้วย
การช่วยเหลือมีความหลากหลาย เช่น การสนับสนุนงบประมาณ การฝึกอบรม และการสนับสนุนการรักษาพยาบาล การน�าผู้ป่วย
ส่งโรงพยาบาล เป็นต้น แต่ละค่ายผู้ลี้ภัยจะมีโรงพยาบาล คลินิกประเภทต่าง ๆ ศูนย์ฝึกอบรมด้านอนามัยเจริญพันธุ์ แต่ไม่มีแพทย์
ประจ�าการ มีผู้ลี้ภัยที่ได้รับการอบรมเป็นผู้ดูแล ในโรงพยาบาลจะมีการแยกหอผู้ป่วยชาย หญิง และมีส่วนหนึ่งที่แยกไว้ส�าหรับผู้ป่วย
วัณโรค
กิจกรรมด้านสุขภาพอนามัย นอกจากการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลหรือคลินิกแล้ว ยังมีงานด้าน Psychosocial
ซึ่งมีทั้งงานด้านการฝึกอบรมและการให้บริการด้านการสร้างเสริมสุขภาพจิตสังคมให้มีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข เนื่องด้วยการด�าเนินชีวิต
ในค่ายผู้ลี้ภัยนั้นค่อนข้างมีความจ�าเจ ไร้อิสรภาพ ไม่สามารถประกอบอาชีพและท�างานได้ตามศักยภาพที่มีอยู่ รวมทั้งการไม่รู้ว่าอนาคต
จะเป็นอย่างไร จึงท�าให้ผู้ลี้ภัยมีอารมณ์เครียด ซึมเศร้า ผู้ชายบางคนติดเหล้า ผู้หญิงต้องเผชิญกับปัญหาการถูกท�าร้ายจากสามี ในบาง
กรณีผู้หญิงถูกข่มขืน ปัญหาการฆ่าตัวตาย ซึ่งปัญหาสุขภาพจิตเหล่านี้ก็ได้รับความเอาใจใส่จากองค์กรระหว่างประเทศที่พยายามให้
การสนับสนุนแก้ไขปัญหา จัดการฝึกอบรมการส่งเสริมสิทธิสตรี การจัดโปรแกรมงดเหล้า เป็นต้น กรณีผู้หญิงที่ถูกข่มขืนหรือถูกสามี
ท�าร้ายร่างกาย จะแยกผู้หญิงนั้นไปอยู่ในพื้นที่ที่เรียกว่า safe house เพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจ
พื้นที่ภายในค่ายผู้ลี้ภัยมีความระวังเรื่องโรคติดต่อค่อนข้างสูง เนื่องจากลักษณะการสร้างบ้านเรือนที่ติดกัน และ
บางเขตไม่สามารถเข้าถึงแหล่งน�้าได้ ระบบสุขาภิบาลไม่ดี รวมทั้งการบ�าบัดน�้าเสีย นอกจากนี้ ยังกลัวเชื้อดื้อยา ดังจะเห็นได้ว่า หากมี
ผู้ป่วยเป็นมาลาเรียและโรคติดเชื้อจะต้องกินยาต่อหน้าเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง และเจ้าหน้าที่จะไม่แจกจ่ายยาให้กับผู้ป่วยพร�่าเพรื่อ
การรักษาทุกกรณีไม่เสียค่าใช้จ่าย จึงดูเหมือนว่าผู้ลี้ภัยจะได้รับบริการสาธารณสุขที่ดีกว่าประเทศตนเอง เนื่องจาก
สามารถเข้าถึงได้ง่าย อย่างไรก็ตาม หากป่วยด้วยโรคที่ต้องดูแลต่อเนื่อง เช่น โรคไต มะเร็งต่างๆ เหล่านี้เป็นการรักษาที่ต้องเสีย
ค่าใช้จ่ายสูงและเรื้อรัง จากข้อมูลสนามพบว่า เนื่องจากงบประมาณมีจ�ากัดไม่สามารถช่วยเหลือผู้ลี้ภัยเหล่านี้ได้ ดังนั้น ผู้ป่วยจึงต้อง
ดูแลตนเอง ผู้ป่วยเหล่านี้ไม่มีทางเลือกมากนักนอกจากกลับมารักษาตามอัตภาพที่ค่ายผู้ลี้ภัย ขณะที่เจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศ
ที่ท�างานเกี่ยวข้องกับด้านนี้ ยืนยันว่าค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลนั้นครอบคลุมในทุกกรณี
54 55
ทางเลือกเชิงนโยบายการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยในค่ายพักพิงชั่วคราว ทางเลือกเชิงนโยบายการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยในค่ายพักพิงชั่วคราว