Page 77 - รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการวิจัยการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทย และความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน
P. 77
(คนทํางานมากกว่า ๒๐๐ คน) มีสัดส่วนเพียงเล็กน้อย คือ ประมาณร้อยละ ๐.๒ ของจํานวนสถาน
ประกอบการทั้งสิ้น การค้ามนุษย์ด้านแรงงานมักจะเกิดขึ้นในสถานประกอบการขนาดย่อมที่การตรวจ
แรงงานไปไม่ถึง
ส่วนการตรวจแรงงานในเรือประมงก็มีป๎ญหาคล้ายกับการตรวจแรงงานในสถานประกอบการ
ขนาดย่อม ป๎จจุบันมีลูกเรือใช้แรงงานอยู่ในเรือประมงสัญชาติไทยกลางทะเลประมาณ ๓๐๐,๐๐๐ คน
โดยมีทั้งแรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติ ซึ่งสัดส่วนในป๎จจุบันมีแนวโน้มของแรงงานข้ามชาติสูงกว่า
แรงงานไทยหลายเท่าตัว การที่มีเรือประมงอยู่เป็นจํานวนมากทําให้การตรวจแรงงานในเรือประมงทําได้ไม่
ทั่วถึง ป๎ญหาการค้ามนุษย์นับว่าเป็นป๎ญหาที่สําคัญอีกประการหนึ่งของอุตสาหกรรมประมงทะเล ด้วย
สภาวะการขาดแคลนแรงงานจํานวนมากจึงทําให้เกิดขบวนการนายหน้าค้าแรงงานประมง เพื่อจัดหา
แรงงานประมงปูอนเข้าสู่ตลาดที่ขาดแคลน แต่แรงงานส่วนใหญ่เลือกที่จะทํางานบนบก มากกว่างานใน
ทะเล จึงทําให้วิธีการของนายหน้าต้องใช้การล่อลวง การใช้ยาสลบ และการบังคับให้ชําระหนี้ เป็น
เครื่องมือในการนําพาแรงงานลงเรือประมง โดยป๎จจุบันค่าหัวแรงงานที่นายหน้าขายให้กับเรือประมง มี
ราคาตั้งแต่ ๖,๐๐๐ – ๓๐,๐๐๐ บาท นั่นหมายถึง แรงงานที่ถูกล่อลวงไปทํางาน ต้องทํางานใช้หนี้ใน
สภาพที่ไม่เต็มใจในการทํางาน โดยไม่สามารถขัดขืนหรือหนีเพื่อให้พ้นสภาพนั้นได้ เนื่องจากเรืออยู่กลาง
ทะเลตลอด ระบบการจ้างแรงงานของอุตสาหกรรมประมงทะเล ส่วนใหญ่เป็นการมอบหมายการดูแล
และจัดหาลูกเรือประมงให้กับผู้ควบคุมเรือ(ไต้ก๋ง) ดังนั้น ระบบการจัดการเรื่องเอกสารจึงไม่มี
ประสิทธิภาพเท่าที่ควร แรงงานประมงจํานวนมากออกเรือโดยไม่เคยมีการเซ็นสัญญาการจ้างงาน ลูกเรือ
ไม่ทราบค่าจ้างแรงงานที่ตนเองจะได้รับ และระยะเวลาที่ต้องออกเรือ ยิ่งเป็นแรงงานเด็ก หรือแรงงานที่
ถูกนําพามาโดยขบวนการค้ามนุษย์จะไม่ทราบแม้กระทั่งว่าตนเองจะไปออกเรือที่ไหนและจะได้กลับเข้าฝ๎่ง
เมื่อใด
เมื่อพิจารณาถึงมาตรการในการคุ้มครองแรงงานภาคประมงทะเลในเรือประมงสัญชาติไทยที่มี
แรงงานประมาณ ๓๐๐,๐๐๐ คนนั้น ก็มีเพียงพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และ
กฎกระทรวงแรงงานฉบับที่ ๑๐ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑ เพื่อ
กําหนดมาตรฐานขั้นต่ําในการใช้แรงงานในกิจการประมงทะเลเป็นการเฉพาะเท่านั้น กฎหมายและ
กฎกระทรวงดังกล่าวมีการคุ้มครองการใช้แรงงานประมงทะเลก่อนที่จะออกทําการประมงทะเล โดย
กําหนดอายุขั้นต่ําของลูกเรือประมง ห้ามมิให้นายจ้างรับเด็กอายุต่ํากว่าสิบหกปีทํางานในเรือประมง เว้น
แต่เด็กนั้นอายุไม่ต่ํากว่าสิบห้าปี และบิดาหรือผู้ปกครองของเด็กนั้นทํางานอยู่ในเรือประมงนั้น แต่
กฎหมายไม่มีการบังคับว่าก่อนที่ลูกจ้างจะทํางานบนเรือประมงจะต้องได้รับการตรวจร่างกายจากแพทย์ว่า
มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ สามารถที่จะทํางานบนเรือประมงได้ ไม่ได้มีการกําหนดให้มีการฝึกอาชีพหรือ
ฝึกงานให้แก่แรงงานประมงก่อนที่จะเริ่มทํางานบนเรือประมง แต่เนื่องจากงานประมงทะเลเป็นงานใน
ลักษณะพิเศษ มีช่วงเวลาในการทํางานไม่เหมือนงานปกติทั่วไป กล่าวคือ มีการทํางานเป็นช่วงเวลาไม่
ต่อเนื่องกัน ลูกเรือประมงจะมีหน้าที่ปล่อยอวน เมื่อลากปลาขึ้นมาได้ก็จะทําการคัดแยกปลา และซ่อม
อวน แล้วจึงปล่อยอวนอีกครั้ง เรียกว่า ๑ ลอย ใช้เวลาประมาณลอยละ ๒ – ๔ ชั่วโมงจากนั้นจะนอน
พักผ่อน ๒ – ๔ ชั่วโมง ก็จะทําการลากอวนขึ้นเรือและคัดแยกปลารอบใหม่ วนเวียนกันอยู่แบบนี้ ดังนั้น
การพักผ่อนจึงไม่ต่อเนื่อง ตลอดจนไม่มีเวลาหยุดงานที่ชัดเจน จึงทําให้แรงงานประมงต้องทํางานเกิน
กว่าวันละ ๘ ชั่วโมง จึงพักผ่อนไม่เพียง ซึ่งเป็นเหตุแห่งการเกิดอันตรายในการทํางาน และอาจเจ็บปุวยได้
ง่าย การทํางานภายใต้สภาพบังคับเช่นนี้ ผิดกฎหมาย ซึ่งกระทรวงแรงงานไม่สามารถควบคุมได้
๕๗